
แนะนำเกมโปเกมอน รุ่น 7 เกมที่มีฉากคัตซีนมากกว่ารุ่นก่อน
- Good Day's
- 76 views

แนะนำเกมโปเกมอน รุ่น 7 เกมที่เปิดตัวให้เล่นต่อจากเกม ในเจเนอเรชันที่ 6 จากบทความ แนะนำโปเกมอนรุ่น 5 ถึง 6 ก่อนหน้านี้ ที่ไม่ได้เป็นเกมที่พยายามแค่ปรับภาพกราฟิก หรือเพิ่มโปเกมอนหน้าใหม่เข้าไป เพียงอย่างเดียว แต่ต้องการเปลี่ยนวิธีที่ผู้เล่นมองต่อโลกโปเกมอน แบบเดิมออกไปทั้งหมด

เมื่อพูดถึงโปเกมอนรุ่นที่ 7 ในแฟรนไชส์ Pokemon สิ่งแรกที่หลายคนจดจำได้ อาจไม่ใช่โปเกมอนหน้าใหม่ หรือระบบต่อสู้ที่เปลี่ยนไป แต่เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ ที่เกมเริ่มมอบให้กับผู้เล่น หลังจากที่ซีรีส์เกมของแฟรนไชส์นี้ ได้เดินตามสูตรสำเร็จมานานกว่าสิบปี (16 ตุลาคม 2025) [1]
การเปลี่ยนผ่านจากยุค 2D สู่การเล่าเรื่องเชิงภาพยนตร์ในเกมโปเกมอน ภาค Sun & Moon จากบทความ รีวิว Pokemon ซันแอนด์มูน คือสัญญาณว่าผู้พัฒนาเริ่มมองเกมนี้ ไม่ได้เป็นเพียงสนามประลองระบบการเล่นใหม่ ๆ แต่เป็นโลกที่มีชีวิตที่ผู้เล่นต้องเข้าไปสัมผัส
ระบบการเล่นของเกมโปเกมอน ใน Generation 7 ยังใช้ระบบแบบเกมแนว RPG ที่ผู้เล่นจะต้องจับ ต้องฝึก และต่อสู้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือรูปแบบการเดินทาง กับเป้าหมายหลักของผู้เล่น โดยในภูมิภาคอโลลา ผู้เล่นจะไม่ได้ไล่ท้าชิง Gym Leader เหมือนรุ่นก่อน ๆ อย่างเกม Sun & Moon (2 ตุลาคม 2025) [2]
แต่ต้องผ่าน Trial Challenge ที่เน้นการแก้ปริศนา และการต่อสู้กับ Totem Pokemon ซึ่งแข็งแกร่งกว่าโปเกมอนทั่วไป การตัดระบบ Gym ออกไม่ใช่การลดความท้าทาย แต่เป็นการทดลองแนวทางใหม่ ที่ทำให้แต่ละเกาะในอโลลา ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จนผู้เล่นจำนวนมากรู้สึกว่ากำลังดูเรื่องราวที่มีชีวิตจริง ๆ มากกว่าแค่เล่นเกมแนว RPG ทั่วไป สำหรับเกมภาค Let’s Go, Pikachu และ Eevee ระบบจับโปเกมอนถูกออกแบบให้คล้ายกับ Pokemon GO โดยใช้การขว้างลูกบอลผ่าน JoyCon แทน (2025) [3]
เกมโปเกมอน Generation ที่ 7 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2016 ด้วยการเปิดตัว Pokemon Sun & Moon บนเครื่อง Nintendo 3DS ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมในแฟรนไชส์ เพราะเป็นครั้งแรกที่เกมภาคหลัก เปิดตัวออกพร้อมกันทั่วโลกในวันเดียวกัน
การวางจำหน่ายนี้ไม่เพียงยกระดับมาตรฐาน ของการเปิดตัว แต่ยังสะท้อนความตั้งใจของ Game Freak ที่ต้องการเชื่อมผู้เล่นทุกภูมิภาค ให้เป็นหนึ่งเดียว ภายใต้โลกอโลลา ต่อมาในปี 2017 ได้มีภาคเสริมเปิดตัวตามออกมา อย่างเกมโปเกมอน ภาค Ultra Sun & Ultra Moon
ที่ขยายเรื่องราวและเพิ่มเนื้อหาพิเศษ ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสมุมมองใหม่ของโลกใบเดิม การเปลี่ยนผ่านจาก 3DS มาสู่เครื่องคอนโซล Nintendo Switch ในปี 2018 ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญ เพราะเกมนี้ ทำหน้าที่เป็นสะพาน เชื่อมแฟนรุ่นเก่า กับผู้เล่นยุคใหม่เข้าด้วยกัน

เมื่อเข้าใจพื้นฐานของการเปิดตัว กับระบบการเล่นเกมโปเกมอนในรุ่นที่ 7 แล้ว สิ่งที่จะพาทำความเข้าใจต่อมา คือคำถามสำคัญว่าอะไรคือเสน่ห์ของเกม ในเจนที่เจ็ดนี้ เพราะแม้เกมโปเกมอน จะยังคงรูปแบบการผจญภัยไว้เหมือนเดิม
แต่ทีมพัฒนาได้เพิ่มแนวคิดใหม่ ๆ เข้ามาในทุกมิติ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแบบทดลองเท่านั้น แต่เป็นการวางรากฐานให้เกมในซีรีส์ สามารถเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่อย่างมั่นคง
สิ่งที่ทำให้เกมโปเกมอน จากเจน 7 แตกต่างจากทุกภาคก่อนหน้า คือการกล้าเปลี่ยนระบบการเล่น ที่เกมในซีรีส์ใช้มาเกือบ 20 ปีออก เขตอโลลาถูกออกแบบให้มีโครงสร้างแบบเกาะ แทนพื้นที่แผ่นดินกว้างใหญ่ ส่งผลให้การเดินทางของผู้เล่น
สามารถเดินทางหมุนเวียนได้หลากหลายภูมิประเทศ และการตัดระบบยิมออก โดยการแทนที่ด้วย TrialChallenge ทำให้เกมมีจังหวะการเล่นที่ดูมีอิสระขึ้น รวมถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วมของตัวละครรอง อย่างหัวหน้าเกาะ ช่วยให้โลกในเกมดูเหมือนว่ามีคนอยู่จริง
มากกว่าเป็นเพียงฉากหลังแบบเกมในรุ่นก่อน ๆ นอกจากนี้ การเพิ่ม Alolan Form ของโปเกมอนรุ่นเก่าเข้าไป ยังกลายเป็นจุดขายใหม่ ที่ทำให้แฟนเกมเก่ารู้สึกคุ้นเคย กับเกม แต่ก็ได้รับรสชาติการผจญภัยแบบแปลกใหม่ ในเวลาเดียวกัน
จากเกมทั้งหมดในรุ่นที่ 7 เกม 2 ภาคที่ได้รับความนิยม กับถูกพูดถึงมากที่สุดคือเกมภาคซันแอนด์มูน จากปี 2016 และเกมโปเกมอน ภาคเล็ทส์โกปิกาจู ในปี 2018 โดยภาคแรกได้คะแนนบนเว็บ Metacritic จำนวน 87 คะแนน และได้รับการชื่นชมในฐานะเกม ที่ยกระดับการเล่าเรื่องของเกม ในแฟรนไชส์
โดยนับคะแนนจากผู้ลงคะแนนทั้งหมด นับเป็น 85% ของผู้เล่น ที่เห็นตรงกันว่าเป็นภาคที่มีเนื้อหาลึกที่สุดในยุค 3DS กับจุดแข็งของเกมหลัก ที่มีแต่ความสดใหม่ของโลกอโลลา และตัวละครในเกม ทำให้ผู้เล่นรู้สึกผูกพันกับเกม มากกว่าเกมรุ่นก่อนหน้า
ในขณะเดียวกัน การใช้ระบบ Z Move ก็เพิ่มมิติของการต่อสู้ โดยไม่ทำให้เกมซับซ้อนเกินไป ถึงแม้แฟนรุ่นเก่าบางส่วน จะมองว่าระบบต่อสู้อาจไม่ดุเดือดเหมือนกับเกมที่ผ่านมา แต่ภาพกราฟิก และการออกแบบโลกแบบ HD ก็สร้างมาตรฐานใหม่ ให้กับเกมโปเกมอนที่กำลังจะเกิดขึ้น ในเจเนอเรชันต่อไป
เกมโปเกมอน จากเจเนอเรชันที่ 7 คือการยืนยันว่าโปเกมอนยังสามารถเติบโตได้ในทุกยุค แม้ผ่านเวลามายาวนานกว่า 20 ปี เกมในเจนนี้ไม่ใช่ภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หากนับตามระบบการเล่นเกม แต่ได้กลายเป็นเกมรุ่นที่กล้าที่จะลอง และยอมเปลี่ยน เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดี กว่าเกมทั่วไป
เกมรุ่นนี้ เหมาะกับผู้เล่นที่ชื่นชอบการเล่าเรื่องที่มีอารมณ์ กับชอบความสัมพันธ์ ระหว่างตัวละครมากกว่าการแข่งขัน และรูปแบบการผจญภัยแบบ Trial ยังเหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการความหลากหลาย อยากเห็นโลกโปเกมอนในมุมที่อบอุ่น สดใส รวมถึงมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิต ของเหล่ามอนสเตอร์
ผู้เล่นที่ชื่นชอบความท้าทายแบบเกมในคลาสสิก หรือชอบระบบต่อสู้ที่ซับซ้อน อาจรู้สึกว่าเกมรุ่นนี้ ไม่ต้องใช้กลยุทธ์ต่อการเล่นมากมาย กับผู้ที่คาดหวังโลกโอเพ่นเวิลด์ขนาดใหญ่ หรือระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ก็อาจรู้สึกว่าภาคนี้ ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร

