
pg-game ความสนุกที่อาจซ่อนกลไก ทางจิตวิทยา
- Pet Noi
- 61 views

pg-game ไม่ได้มีแค่ความบันเทิง แต่ซ่อนชั้นเชิงการออกแบบที่กระตุ้นสมอง และพฤติกรรมของผู้เล่น ความสนุกจึงไม่ใช่เพียงการคลายเครียด แต่อาจเป็นการทดลองเชิงจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้เล่นอยู่ในเกมนาน ก่อนจะสนุกไปกับระบบ เราอาจต้องถามตัวเองก่อนว่า ใครกันที่กำลังควบคุมเกมนี้อยู่
pg-game คือหนึ่งในแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ ที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2023 โดยมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 48% ภายในปีเดียว จุดแข็งของระบบอยู่ที่การใช้ “ข้อมูลพฤติกรรมผู้เล่น” เพื่อปรับรูปแบบเกมให้ตอบสนอง ต่ออารมณ์แบบเรียลไทม์
ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2022 – 2025 เป็นต้นมา การใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เล่น ได้เพิ่มขึ้นเกิน 60% จึงไม่น่าแปลกที่ระบบ pggame ลักษณะนี้ จะเริ่มมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ และรูปแบบการเล่นของผู้คนมากขึ้น โดยไม่รู้ตัว
ด้วยโครงสร้างเกมแนวพีจี เริ่มพัฒนาให้ใช้ระบบ “รางวัลแบบสุ่ม” ตั้งแต่ปี 2021 มากขึ้นกว่า 45% เพื่อกระตุ้นการกลับมาเล่นซ้ำ โดยแต่ก่อนจะเป็นรูปแบบ Arcade Game ในหมวดหมู่เกมแห่งโอกาส แบบหยอดเหรียญ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1970 (28 กันยายน 2025) [1]
ข้อมูลการสำรวจกลุ่มผู้เล่นพีจีเกม ในปี 2023 ระบุว่า ใช้เวลาอยู่ในเกมนานขึ้นกว่าเดิม 38% ภายใน 1 รอบการเล่น กลไกเหล่านี้ทำให้ผู้เล่นรู้สึกอยากลองอีกครั้ง ทั้งที่ไม่ได้ต้องการรางวัลเท่าเดิม เมื่อความสนุกถูกออกแบบอย่างเป็นระบบ การหยุดเล่นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป
ระบบของเกมสมัยใหม่ ไม่ได้ออกแบบให้เล่นเก่งขึ้น แต่ให้ “เล่นต่อไปเรื่อย ๆ” การใช้เสียง เอฟเฟกต์ และภาพเคลื่อนไหวที่กระตุ้นสมอง ส่วนความพึงพอใจ และส่วนความสุข หรือที่รู้จักในชื่อว่า “เอ็นโดรฟิน” และ “โดพามีน” สองสารนี้เป็นกลุ่มฮอร์โมน ในร่างกายมนุษย์ (1 มีนาคม 2021) [2]
ทำให้เกิดวงจรพฤติกรรมซ้ำแบบเงียบ ๆ เมื่อผู้เล่นได้รับรางวัลเล็ก ๆ บ่อยครั้ง สมองจะจดจำความสุขระยะสั้น และต้องการมันซ้ำ นอกจากนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับการเล่นเฉลี่ยต่อวัน ของผู้เล่นเกมมือถือในไทย จากช่วงปี 2022 – 2024 ชี้ว่า ใช้เวลาเล่น สล็อตแตกง่าย pg เพิ่มขึ้นกว่า 27%
พฤติกรรมนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากการออกแบบที่คำนวณอารมณ์ และจังหวะการตอบสนอง ยิ่งผู้เล่นคุ้นกับจังหวะการให้รางวัลมากเท่าไร ระบบก็ยิ่งควบคุมความสนใจได้ง่ายขึ้น สุดท้าย ความสนุกจึงค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็น “การเล่นซ้ำเพราะสมองสั่ง” มากกว่า “เล่นเพราะอยากสนุกจริง ๆ”

ผู้เล่นที่ผ่านการสำรวจพฤติกรรม มาในปี 2023 กว่า 40% ยอมรับว่า เข้าระบบ pg-game ทุกวัน แม้ไม่ได้ตั้งใจจะเล่นจริงจัง พลังของ “ความคุ้นชิน” ทำให้พฤติกรรมซ้ำ ๆ กลายเป็นกิจวัตรที่ยากจะตัดขาด ระบบของพีจีเกมใช้การแจ้งเตือน และโบนัสระยะสั้น เพื่อให้สมองตอบสนองต่อรางวัลทันที
เมื่อเวลาผ่านไป ความผูกพันไม่ได้เกิดจากความสนุกอีกต่อไป แต่เกิดจากความเคยชิน ที่ระบบคอยหล่อหลอม อย่างแนบเนียน จึงไม่น่าแปลกที่บางคนจะรู้สึก “ขาดบางอย่าง” หากวันหนึ่งไม่ได้เข้าเกม หรือไม่ได้ทำกิจกรรมให้ความบันเทิง ในหมวดหมู่เกมพนันเลย (30 กรกฎาคม 2025) [3]
สิ่งที่เริ่มจาก “การเล่นเพียงไม่กี่นาที” มักค่อย ๆ กลายเป็น “กิจวัตรประจำวัน” โดยไม่รู้ตัว ระบบของพีจีเกม ใช้หลักจิตวิทยาการเรียนรู้ซ้ำ (Reinforcement Loop) เพื่อสร้างความต่อเนื่องทางอารมณ์ ทุกครั้งที่ผู้เล่นได้รับรางวัล สมองจะหลั่งโดพามีนในระดับเล็กน้อย
แต่บ่อยพอให้รู้สึกอยากกลับมา เมื่อพฤติกรรมซ้ำ ๆ เกิดขึ้นต่อเนื่องเกิน 21 วัน มันไม่ใช่แค่การเล่นเกมอีกต่อไป แต่กลายเป็น “ความผูกพันทางจิตใจ” และนั่นคือจุดที่ผู้เล่นเริ่มหลงทางระหว่าง “ความชอบ” กับ “ความจำเป็น” โดยไม่ทันรู้ตัว ก็มีสิทธิ์จะเป็นไปได้
ความสนุกใน pg-game ต่าง ๆ มักเริ่มต้นจาก “ความอยากลอง” ไม่กี่ครั้ง แต่ระบบกลับทำให้มันกลายเป็น “ความอยากซ้ำ ๆ” ที่ยากจะดับลง เมื่อผู้เล่นเริ่มเชื่อมโยงรางวัลในเกม เข้ากับความพึงพอใจ สมองจะจดจำและสร้างพฤติกรรมตอบสนอง โดยอัตโนมัติ
ผู้เล่นที่มีพฤติกรรมเล่นต่อเนื่อง เกิน 30 วัน มีแนวโน้มกลับเข้าเกมสูงถึง 72% แม้ไม่มีรางวัลพิเศษ กลไกเหล่านี้ทำงานร่วมกับจังหวะเสียง ภาพ และเวลา เพื่อสร้างการกระตุ้นซ้ำอย่างแนบเนียน ผู้เล่นบางคนจึงรู้สึกเหมือน Game Online ประเภทเกมพนัน “เข้าใจ” ตัวเอง
ทั้งที่จริงแล้ว เป็นการตอบสนองต่อข้อมูล ที่ระบบเก็บไว้อย่างละเอียด ยิ่งเวลาผ่านไป ความรู้สึก “อยากเล่นอีก” จะไม่ใช่เรื่องของความชอบ แต่คือผลจากการเรียนรู้ที่ถูกฝังไว้ในสมอง และนี่คือเหตุผลที่หลายคนไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองไม่ได้เลือกเล่น แต่กำลัง “ถูกเลือกให้เล่น” อยู่แทน
พีจีเกมไม่ได้มีแค่ระบบที่ฉลาดขึ้น แต่ยังเรียนรู้ “พฤติกรรมของผู้เล่น” เพื่อออกแบบความสนุก ให้ยิ่งยากจะต้าน ความเข้าใจเกมจึงไม่ใช่แค่รู้วิธีเล่น แต่ต้องรู้ทันวิธีที่ระบบพยายาม “เล่นกับเรา” ด้วย เพราะสุดท้าย ความต่างระหว่างคนที่เล่นเกม กับคนที่ถูกเกมควบคุม อาจอยู่เพียงเส้นบาง ๆ เท่านั้น
แม้จะรู้เท่าทันกลไกของเกม แต่การกลับเข้าเล่นซ้ำก็ยังสะท้อน “แรงดึงดูดทางอารมณ์” ที่ระบบวางไว้ เพราะความเสี่ยงไม่ได้อยู่ที่ความไม่รู้ แต่อยู่ที่ “รู้แต่ยังเลือกเล่นต่อ” และนั่นคือจุดที่เส้นบาง ๆ ระหว่าง “ความสนุก” กับ “การพึ่งพา” เริ่มเบลอโดยไม่รู้ตัว
ในโลกที่ทุกคลิกถูกบันทึก ทุกพฤติกรรมถูกวิเคราะห์ เกมอาจไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิงอีกต่อไป เพราะแม้เราจะคิดว่าเป็นผู้ควบคุม แต่ทุกการตัดสินใจอาจอยู่ในเส้นทาง ที่ระบบวางไว้ตั้งแต่ต้น สุดท้ายแล้ว เสรีภาพของผู้เล่นอาจไม่ใช่การเลือก แต่คือ “การเลือกในกรอบที่ถูกออกแบบไว้แล้ว”

