
ค้ามนุษย์กัมพูชา ล่าสุด สัญญาณใหม่ที่ต้องรู้ทัน
- Pet Noi
- 128 views

ค้ามนุษย์กัมพูชา ล่าสุด เป็นประเด็นที่ต้องรู้เท่าทัน เพราะกลลวงเปลี่ยนรูปแบบอยู่ตลอด จากคำชวนทำงานที่ดูน่าเชื่อถือ กลับกลายเป็น “กับดัก” ที่พาเหยื่อข้ามแดน โดยไม่รู้ตัว การเข้าใจสัญญาณเหล่านี้ คือก้าวแรกของการป้องกันตัว และคนรอบข้างในสังคมไทย
หน่วยงานสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ระบุว่า มีการ ค้ามนุษย์กัมพูชา ล่าสุด กว่า 190 คดี ในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว ๆ 20% โดยส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ และการชักชวนไปทำงาน ในประเทศเพื่อนบ้าน
ช่วงต้นปี ไทยกับกัมพูชาร่วมมือกัน ในการตรวจยึดพื้นที่ต้องสงสัยกว่า 40 จุด พร้อมช่วยเหลือผู้เสียหายมากกว่า 500 คน ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า ขบวนการค้ามนุษย์ยังคงเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปราบปรามเข้มข้นขึ้นก็ตาม
มีรายงานว่าคนไทยกว่า 3,000 คน ในช่วงปี 2023 – 2024 ว่าถูกล่อลวงจาก สแกมเมอร์ ในกัมพูชา โดย 60% มาจากการสมัครงานออนไลน์ ที่ใช้ข้อความชวนเชื่อ เรื่องรายได้สูงเกินจริง ถ้าให้พูดง่าย ๆ สแกมเมอร์คือการหลอกลวง แล้วเปลี่ยนเป็นกลโกงต่าง ๆ เพื่อให้คนอื่นไว้ใจ (17 ตุลาคม 2025) [1]
เหยื่อจำนวนไม่น้อย ถูกนำไปทำงานในพื้นที่ปิด หรือศูนย์หลอกลวงที่มีระบบควบคุมเข้มงวด เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศ ร่วมกันช่วยเหลือผู้เสียหาย ได้มากกว่า 500 คน ซึ่งสะท้อนว่า ขบวนการนี้ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ การรู้เท่าทันคำชวนที่เกินจริง จึงเป็น “เกราะป้องกัน” สำคัญของคนไทย ในยุคปัจจุบันนี้
สำหรับรูปแบบการค้ามนุษย์ระหว่าง “ไทย” กับ “กัมพูชา” ในปี 2025 เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยการค้ามนุษย์ที่ว่านี้ หมายถึง การรับบุคคล หรือกลุ่มคนใหญ่ ๆ มาโดยการใช้กำลัง เพื่อบังคับใช้แรงงานเป็นทาส ถ้าพูดง่าย ๆ ก็คือ การจัดหา และการโอนย้ายคนไปมา (16 ตุลาคม 2025) [2]
จากเดิมที่ใช้การชวนเดินทาง ไปทำงานตรง ๆ กลายเป็นการ “หลอกผ่านหน้าจอ” มากขึ้นกว่าเดิมถึง 70% ตามข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคง ภายในช่วงครึ่งปีแรกพบว่า มีบัญชีโซเชียลที่ใช้หลอกลวงมากกว่า 4,000 บัญชี และกว่า 45% ของคนที่ถูกหลอก เป็นวัยทำงานอายุ 25 – 40 ปี
รูปแบบกลลวงยอดฮิตคือ การอ้างตัวว่าเป็นบริษัทต่างประเทศ เสนอค่าจ้างสูง ๆ โดยไม่ต้องมีประสบการณ์ เมื่อเหยื่อตอบรับ เชื่อจนยอมเดินทางมาหา ก็จะถูกพาไปยังชายแดน เพื่อส่งต่อเข้าสู่เครือข่ายค้ามนุษย์ นี่จึงเป็นที่มาของ สาเหตุ คนเกาหลี ถูกหลอกไปกัมพูชา ในสถานการณ์ล่าสุดนี้

การป้องกันการค้ามนุษย์ยุคใหม่ เริ่มจาก “สังเกตสัญญาณ” ที่อาจซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น การชักชวนให้ทำงานต่างประเทศ โดยไม่ตรวจเอกสารให้ชัด หรือการขอข้อมูลส่วนตัว มากเกินจำเป็น ปัจจุบันมีรายงานว่า เหยื่อกว่า 55% ถูกลวงผ่านช่องทางออนไลน์
ภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังเริ่มสนทนา การตรวจสอบชื่อบริษัท เบอร์โทรศัพท์ บวกประวัติโพสต์ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้ ควรบันทึกหลักฐานทุกครั้ง ที่มีข้อเสนอไม่ปกติ เพราะข้อมูลเพียงเล็กน้อย ก็สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ติดตาม และป้องกันเหยื่อรายต่อไปได้
พฤติกรรมที่เปิดช่องให้ตกเป็นเหยื่อ ของขบวนการค้ามนุษย์ ยังคงเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการตอบรับงานผ่านออนไลน์ ที่เป็นพวกสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ แพลตฟอร์มที่สามารถแลกเปลี่ยน พูดคุยกันในเรื่องต่าง ๆ ได้ อาทิเช่น บล็อกหางาน หรือฟอรั่ม (12 ตุลาคม 2025) [3]
โดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาให้แน่ชัด ปัจจุบันพบว่า คนไทยกว่า 52% มักคลิกลิงก์สมัครงานทันที เมื่อเห็นข้อเสนอรายได้สูง ในจำนวนนี้ราว ๆ 30% ยอมส่งเอกสารส่วนตัวให้ก่อนสัมภาษณ์ ดังนั้น การรู้เท่าทัน และการตั้งข้อสงสัยก่อนตัดสินใจ จึงเป็น “เกราะป้องกันแรก” ที่สำคัญที่สุด
เมื่อเริ่มสงสัยว่ากำลังถูกหลอก หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ สิ่งแรกที่ควรทำคือ หยุดติดต่อทันที และเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ อาทิเช่น ข้อความหรือเบอร์โทรที่ใช้ติดต่อ จากข้อมูลกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในปี 2024 พบว่า ผู้เสียหายกว่า 64% สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
เพราะรีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใน 24 ชั่วโมงแรก ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายอื่น ๆ ตามมา หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ควรขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หรือศูนย์ดำรงธรรมในทันที การไม่ปิดบังข้อมูล และแจ้งเหตุโดยเร็ว คือโอกาสสำคัญ ที่จะช่วยชีวิตทั้งของตนเอง และผู้อื่น
เหตุการณ์ค้ามนุษย์กัมพูชาล่าสุด สะท้อนให้เห็นว่า การรู้เท่าทันคือการป้องกันที่ดีที่สุด เพราะขบวนการเหล่านี้ เปลี่ยนวิธีหลอกลวงตลอดเวลา คนไทยจึงควรหมั่นตรวจสอบข้อมูล ก่อนตัดสินใจทุกครั้ง และร่วมเป็นหูเป็นตาให้สังคม เพื่อไม่ให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อ รายต่อไป
การป้องกันตัวเริ่มจากการไม่หลงเชื่อ คำชวนที่ดูดีเกินจริง โดยเฉพาะข้อเสนอ ที่เกี่ยวกับงานรายได้สูงต่างประเทศ ควรตรวจสอบข้อมูลบริษัท และช่องทางติดต่อให้แน่ชัด รวมถึงแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อพบพฤติกรรมต้องสงสัย เพื่อช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันไม่ให้เกิดเหยื่อรายใหม่ ในสังคมไทย
สังคมไทยสามารถช่วยลดปัญหาค้ามนุษย์ได้ ด้วยการร่วมกันสอดส่อง และแจ้งเบาะแสเมื่อพบสิ่งผิดปกติ รวมถึงสนับสนุนการให้ความรู้ในชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องสิทธิแรงงาน และการเดินทางอย่างถูกกฎหมาย การตระหนักรู้ร่วมกัน จะช่วยปิดช่องทางของขบวนการค้ามนุษย์ได้

