
รีวิว Pokemon เลเจนด์สแซดเอ ปี 2025 เกมที่จะพาเข้าสู่ยุคใหม่
- Good Day's
- 98 views

รีวิว Pokemon เลเจนด์สแซดเอ ที่กำลังจะเปิดตัวให้เล่นในปี 2025 ท่ามกลางกระแสเกม ที่ต่างพยายามขยายโลกให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อย่างการขยายโลกของโปเกมอนให้ใหญ่ขึ้น เช่นในบทความ รีวิว Pokemon สการ์เล็ต ก่อนหน้านี้ แต่เกมภาคที่หยิบมารีวิวต่อไปนี้ กลับเลือกเส้นทางที่ตรงกันข้าม

หลังจากจบเรื่องราว ของเกมโปเกมอน Legends ZA ในเจน 9 ของแฟรนไชส์โปเกมอน อย่างเกมโปเกมอน ภาค Scarlet and Violet ที่เปิดตัวให้เล่นในปี 2022 แล้ว สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือแนวคิด และโครงสร้างที่ Game Freak วางไว้เบื้องหลัง (7 กันยายน 2025) [1]
เพราะว่าเบื้องหลังการพัฒนาเกม ที่ดูเหมือนเป็นเพียงเกมภาคต่อ แต่กลับแฝงด้วยการเปลี่ยนแปลงระดับรากฐาน ตั้งแต่แนวคิดการออกแบบเมือง ไปจนถึงระบบต่อสู้ ที่พลิกจากสูตรเดิมออกไป ทั้งหมด
การสร้างเกมภาค ภาคเลเจนด์สแซดเอ ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Game Freak ที่ต้องเผชิญกับโจทย์ใหม่ ที่ว่าจะต่อยอดเกมแฟรนไชส์นี้อย่างไร โดยไม่สูญเสียแก่นของคำว่าโปเกมอนไปพร้อมกัน การมาถึงของเกมภาคนี้ ที่เปิดตัวให้เล่นในวันที่ 16 ตุลาคม ปี 2025 (13 ตุลาคม 2025) [2]
จึงเป็นการพลิกทิศทางจากความกว้าง สู่ความลึกอย่างแท้จริง แทนที่จะพาผู้เล่นออกสำรวจธรรมชาติขนาดใหญ่ เหมือนภาคก่อน แต่ในเกมภาคนี้ทีมพัฒนา กลับเลือกใช้เมืองเดียวในการนำเสนอออกมา อย่างเมือง Lumiose City ที่ได้กลายเป็นทั้งสนามทดลอง และหัวใจของการเล่าเรื่องในครั้งนี้
แนวคิดเรื่องเมืองเดียวที่มีชีวิต จึงไม่ใช่แค่การย่อขนาดแผนที่ แต่คือการขยายความหมาย ของคำว่าพื้นที่เล่นเกม ให้กลายเป็นพื้นที่เชิงสังคมและอารมณ์ เพื่อสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างโปเกมอนกับมนุษย์ ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีและธรรมชาติ เริ่มปะทะกันเอง อีกครั้ง
เมื่อเข้าใจพื้นฐานนี้แล้ว สิ่งที่ GameFreak เลือกทำในเกม Pokemon ภาค Legends ZA คือการเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้จากระบบผลัดตา ที่เป็นวิธีการเล่นเกมที่อยู่คู่ซีรีส์มากว่า 2 ทศวรรษ มาสู่ระบบการเล่นแบบเรียลไทม์ อย่างเต็มตัว การเปลี่ยนนี้ไม่ใช่แค่การเพิ่มความเร็ว (2025) [3]
แต่เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างความคิดของเกมไป โดยสิ้นเชิง เพราะแทนที่ผู้เล่นจะรอจังหวะกดคำสั่ง ระบบใหม่นี้ จะให้ผู้เล่นควบคุมตัวละคร และโปเกมอนให้เคลื่อนที่ ในสนามต่อสู้จริง ๆ ราวกับอยู่ในสนามจริงของการแข่งขัน รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนตามเวลา ใน Lumiose City
ยังช่วยเพิ่มชั้นเชิงในการเล่น ให้ผู้เล่นต้องปรับกลยุทธ์อยู่เสมอ ทั้งหมดนี้ ทำให้เกมภาคนี้ เป็นเกมโปเกมอนภาคแรกที่ผลักความหมาย ของคำว่าการต่อสู้ ให้กลายเป็นประสบการณ์การเล่นที่ไหลลื่น แบบไม่ได้วัดแค่ค่าพลัง แต่ยังวัดความเข้าใจต่อจังหวะของโลก ที่กำลังเกิดขึ้นด้วย

เมื่อเห็นภาพรวมของระบบการเล่นที่เกมภาคนี้ พยายามสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดแล้ว สิ่งที่ตามมาคือคำถามสำคัญว่าแนวทางใหม่นี้ จะพาเกมไปถึงจุดไหนได้บ้าง เพราะทุกการเปลี่ยนแปลง ย่อมมีด้านที่กล้าสร้าง และด้านเสี่ยงในเวลาเดียวกัน
การมองทั้ง 2 ด้านนี้ไปพร้อมกัน จึงเป็นหนทางเดียวที่ผู้เล่น จะเข้าใจว่าเกมภาคเลเจนด์สแซดเอ เป็นเกมที่มีการพัฒนา หรือเป็นเพียงเกมที่สร้างขึ้นมา เพื่อการทดลองที่อาจยังไปไม่สุดทาง
สิ่งที่ทำให้เกมโปเกมอน ภาคนี้ ถูกพูดถึงตั้งแต่ยังไม่วางจำหน่าย ในปี 2025 คือความกล้าที่จะเปลี่ยน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของเกมภาคนี้ และหลังจากเกมภาค Arceus เคยเขย่าวงการเกมโปเกมอน ด้วยระบบสำรวจแบบเปิดโลก ในปี 2022 คราวนี้ทางผู้พัฒนา GameFreak
ไม่ได้เลือกขยายโลกให้ใหญ่ขึ้น แต่กลับหดพื้นที่เหล่านั้นลดลง จนเหลือแค่เพียงเมืองเดียว เพื่อพิสูจน์ว่าน้ำหนักของเกม ไม่จำเป็นต้องมาจากขนาดของแผนที่ แต่มาจากความหนาแน่นของการมีชีวิต ภายในพื้นที่เหล่านั้นแทน แนวทางนี้ทำให้เมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมา
กลายเป็นฉากที่มีมิติทางสังคม และการเมือง ให้เคลื่อนไหวไปตามเวลา และสถานการณ์จริงในเกม โดยจากผลสำรวจความคาดหวัง ของแฟนเกม Pokemon กว่า 68% ให้ความเห็นว่าการจำกัดพื้นที่ เพื่อเพิ่มรายละเอียด คือแนวทางที่พวกเขาอยากเห็น มากกว่าการขยายโลกแบบเดิม
เมื่อเข้าใจถึงความกล้าที่จะเปลี่ยนแล้ว สิ่งที่ตามมาคือคำถามว่าเกมภาค LegendsZA นี้ จะไหวแค่ไหน เพราะเกมโปเกมอน ภาคเลเจนด์สแซดเอ เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานด้านกราฟิก และระบบต่อสู้ ซึ่งต้องพึ่งพาขุมพลังของเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch ที่เปิดตัวมา ตั้งแต่ปี 2017
และจะอยู่ในช่วงปลายอายุเครื่องพอดี ในปี 2025 นั่นทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า แม้แนวคิดของเกมจะน่าสนใจ แต่ความสามารถทางเทคนิค อาจไม่เพียงพอสำหรับระบบเรียลไทม์ และแสงเงาที่ซับซ้อนระดับนี้ การยัดโลกที่มีการเปลี่ยนเวลาจริง และระบบต่อสู้แบบต่อเนื่อง ลงในเครื่องเดียว
อาจเป็นความท้าทายที่ทำให้ประสิทธิภาพ ของเกมลดลงในบางจังหวะ อีกด้านคือความเสี่ยงด้านความบาลานซ์ต่าง ๆ ของระบบเกม ความไม่เสถียรเหล่านี้ อาจทำให้เกมถูกมองว่าเกมภาคนี้ กำลังพยายามจะเป็นทุกอย่าง จนไม่เหลือสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด แบบเดิมเอาไว้
เกมโปเกมอน ภาค LegendsZA คือหลักฐานว่าซีรีส์นี้ ยังไม่หมดแรง ที่จะพัฒนาเกมให้พร้อมเข้าสู่ยุคใหม่ต่อ แม้จะต้องแลกกับความเสี่ยงกับข้อจำกัดทางเทคนิค แต่ผลลัพธ์ที่ได้ คือเกมที่สะท้อนความทะเยอทะยาน และความคิดสร้างสรรค์ของทีมพัฒนา อย่างชัดเจน
เกมโปเกมอน ภาคนี้ เหมาะกับผู้เล่นที่มองหาความท้าทาย แบบแอ็กชันที่มีระบบการใช้กลยุทธ์ ในการเล่น มากกว่าเกมที่มอบความผ่อนคลายแบบเกม ภาคหลัก ผู้ที่สนุกกับการอ่านจังหวะการต่อสู้ การบริหารพลังของมอนสเตอร์ และต้องการเห็นโลกโปเกมอน ในมุมมองที่ซับซ้อน จะรู้สึกว่าเกมนี้สนุก
ในทางกลับกัน ผู้เล่นที่คาดหวังการผจญภัยแบบอิสระ หรืออยากสะสมโปเกมอน จากหลายพื้นที่ อาจรู้สึกว่าการจำกัดพื้นที่ ให้สามารถเล่นได้อยู่เมืองเดียว ทำให้เกมขาดความหลากหลาย ด้านบรรยากาศ และผู้ที่ชอบระบบต่อสู้แบบผลัดตา อาจไม่คุ้นกับจังหวะของเกม ที่เร็วกับเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมมาก

