รีวิว Pokemon สการ์เล็ต และไวโอเล็ต 2022 เกมภาคแรกของเจน 9

รีวิว Pokemon สการ์เล็ต

รีวิว Pokemon สการ์เล็ต กับไวโอเล็ต เกมภาคแรก ของเจเนอเรชันที่ 9 จากแฟรนไชส์โปเกมอน เกมภาคใหม่ต่อจากเกมใน รีวิว Pokemon เลเจนด์อาร์เซอุส ที่เขียนไปก่อนหน้าภาคนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งใหญ่ของผู้ผลิต ว่าความฝันในการสร้างเกม แนว Open World แบบเต็มตัว จะสามารถทำได้หรือไม่

  • การพัฒนาเกมเจนใหม่ และระบบการเล่นเบื้องต้น
  • เกมภาคนี้ เหมาะและไม่เหมาะกับผู้เล่นแบบไหน

การสร้างเกม Pokemon เจน 9 และระบบการเล่น

รีวิว Pokemon สการ์เล็ต

หลังจาก Pokemon Legends Arceus ได้เปิดประตูให้เกมในแฟรนไชส์โปเกมอน ก้าวออกจากกรอบเดิม ในปี 2022 การมาถึงของเกมโปเกมอน ภาคที่หยิบนำเอามารีวิวนี้ จึงถูกจับตามองว่าเป็นบททดสอบ ของการเปลี่ยนผ่าน อย่างแท้จริง เพราะนี่ไม่ใช่แค่เกมภาคต่อ ของเกมภาคก่อนหน้า (7 กันยายน 2025) [1]

แต่เป็นเกมที่จะวัดศักยภาพ ของทีมงานผู้ผลิต อย่าง Game Freak ว่าจะนำแนวคิดการสร้างเกม แนวโอเพ่นเวิลด์ที่ได้เริ่มไว้ ในเกมภาคก่อน มาต่อยอดให้ไปได้ไกลกว่าเดิมได้ มากน้อยแค่ไหน

เบื้องหลังการพัฒนาเกมแรก ของเจเนอเรชันที่ 9

หลังจากเกมโปเกมอน ภาคเลเจนด์อาร์เซอุส ประสบความสำเร็จ ด้วยการเปลี่ยนแนวเกม ให้กลายเป็น Open World ทีมพัฒนา GameFreak จึงมองเห็นเส้นทางใหม่ ที่แตกต่างจากสูตรเดิม ทั้งหมด ด้วยการพัฒนา Pokemon ภาค Scarlet & Violet นี้ขึ้นมา และเปิดตัวให้เล่นในวันที่ 18 พฤศจิกายน ปี 2022

โดยเกมภาคใหม่ของเจน 9 นี้ ถูกออกแบบให้เป็นการทดสอบขอบเขตการเล่น อย่างเต็มรูปแบบ ของเกมในซีรีส์โปเกมอน และนี่เป็นครั้งแรกที่โลกเกมโปเกมอน ถูกทำให้เป็นเกมแนวโอเพ่นเวิลด์จริง ๆ โดยทุกพื้นที่ในภูมิภาค Paldea จะถูกนำมาเชื่อมต่อกัน เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเหมือนใช้ชีวิตอยู่ ในโลกเดียว

และในโลกนั้น จะมีโปเกมอนกระจายตัวอยู่รอบ ๆ ซึ่งสิ่งที่ทำตัวเกมโดดเด่น คือเจตนาของทีมพัฒนา ในการสร้างความอิสระ แบบไม่บังคับทิศทางให้กับผู้เล่น ในการเล่นเกมภาคนี้ (8 ตุลาคม 2025) [2]

ระบบการเล่นเกม ภาคสการ์เล็ตไวโอเล็ต เบื้องต้น

ในเกมโปเกมอน ภาคสการ์เล็ตไวโอเล็ตนี้ การเล่นไม่ได้ถูกกำหนดด้วยเส้นทาง หรือระดับเลเวล อีกต่อไป ผู้เล่นสามารถเริ่มต้นผจญภัย ในทิศทางใดก็ได้ และสามารถพบโปเกมอนระดับสูงได้ ตั้งแต่ช่วงต้นเกม การเปลี่ยนจังหวะการเล่น มาเป็นรูปแบบนี้ จะสร้างอิสระกับมอบความท้าทาย ในการเล่นเกม

เพราะแทนที่ระบบ จะจัดลำดับความยาก ตามเส้นเรื่องแบบเดิม เกมกลับผลักให้ผู้เล่น ต้องศึกษาโลกของเกม ว่าควรไปที่ไหนก่อน หรือหลัง เพื่อปรับตัวและวางแผนให้เหมาะกับสถานการณ์ ความอิสระเช่นนี้ ทำให้เกมรู้สึกมีชีวิต แต่ก็เป็นการทดสอบความสามารถของผู้เล่น มากกว่าที่เกมภาคก่อน ๆ เคยเป็น

ซึ่งข้อมูลจาก GameFreak ในปี 2023 ระบุว่า 68% ของผู้เล่นออนไลน์ เลือกใช้ระบบใหม่ ๆ ในเกมเยอะขึ้น มากกว่าการเล่นต่อสู้ แบบจัดอันดับ ซึ่งสะท้อนว่าการปรับจังหวะของเกมครั้งนี้ ไม่ได้เปลี่ยนเพียงวิธีเล่น แต่ยังเปลี่ยนวิธีคิดของผู้เล่นไปพร้อมกัน

โปเกมอน สการ์เล็ตไวโอเล็ต เหมาะกับผู้เล่นแบบไหน

รีวิว Pokemon สการ์เล็ต

เมื่อเข้าใจถึงแนวคิด กับจังหวะการเล่นใหม่ ๆ ที่เกมโปเกมอน ภาค ScarletViolet พยายามสร้างขึ้นแล้ว สิ่งที่อยากจะพาทำความเข้าใจต่อมา คือใครกันแน่ที่เกมนี้ ตั้งใจให้เป็นผู้เล่นหลัก เพราะในขณะที่ระบบเกมแนวโอเพ่นเวิลด์ เป็นระบบเกมที่เน้นผู้เล่นที่ต้องการอิสระ ต่อการเล่นเกมเป็นหลัก (2025) [3]

ซึ่งความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ก็อาจทำให้เกิดเส้นแบ่ง ระหว่างผู้เล่นสายสำรวจ และผู้เล่นสายแข่งขันออกได้ อย่างชัดเจน

เกมโปเกมอนภาคนี้ คู่ควรกับผู้เล่นแบบไหนบ้าง

เกมโปเกมอน สการ์เล็ตแอนด์ไวโอเล็ต คือเกมที่ออกแบบมา เพื่อผู้เล่นที่ต้องการเสรีภาพ อย่างเต็มรูปแบบ ในการสร้างเส้นทางผจญภัยของตัวเอง มากกว่าจะถูกบังคับให้เดินตามลำดับ แบบเดิม การที่เกมเปิดโอกาสให้เลือกได้ ว่าจะเริ่มภารกิจใดก่อน ระหว่างการเป็นแชมเปี้ยน หรือการล่าตำนานโปเกมอน

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกเป็นเจ้าของการเดินทางจริง ๆ และนอกจากนี้ ระบบ Terastallization ยังสร้างจังหวะใหม่ ให้กับการต่อสู้ ผู้เล่นที่ชื่นชอบการคิดเชิงกลยุทธ์ และการปรับตัว ในสถานการณ์ไม่แน่นอน จะสนุกกับการหาทางพลิกเกมได้ ทุกเทิร์น

เกมโปเกมอน ภาคสการ์เล็ตและไวโอเล็ต ไม่เหมาะกับใคร

ในอีกด้านหนึ่ง เกมโปเกมอนภาคนี้ อาจไม่ตอบโจทย์กับผู้เล่น ที่ให้ความสำคัญกับความเสถียร และความสมบูรณ์ของระบบ มากกว่าเกมที่มีความอิสระ เนื่องจากเกมประสบปัญหาด้านกราฟิก กับประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเปิดตัว แม้จะมีการอัปเดตภายหลัง แต่ประสบการณ์โดยรวม

ยังไม่ถึงระดับที่ผู้เล่นคาดหวัง สำหรับเกมภาคหลัก ของ Nintendo หากเปรียบเทียบกับเกมภาคก่อนหน้า ซึ่งให้ความรู้สึกลื่นกว่า ในแง่ของการสำรวจ ทำให้หลายคนมองว่าความทะเยอทะยาน ของเกมภาคนี้นั้น เป็นความทะเยอทะยาน ที่เกินกำลังเครื่องเล่นเกมในยุคนั้น จะสามารถทำได้

สรุป รีวิวเกมโปเกมอน ภาค สการ์เล็ตและไวโอเล็ต

เกม Pokemon ภาค ScarletViolet คือเกมที่เป็นภาพสะท้อนของเกมยุคใหม่ ที่ทางผู้ผลิตพยายามสร้างความอิสระ ให้กับผู้เล่นมากกว่าที่เคย แม้จะสะดุดกับปัญหาทางเทคนิค และประสิทธิภาพ แต่แนวคิดของโลกเปิดเต็มรูปแบบ กับระบบ Terastallization ก็ทำให้เกมนี้ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เกมอื่นไม่มี

จุดเด่นของเกมโปเกมอน สการ์เล็ตกับไวโอเล็ต คืออะไร?

สิ่งที่ทำให้เกมโปเกมอน ภาคนี้ โดดเด่นเหนือภาคก่อน คือการต่อยอดแนวคิดการสำรวจแบบไม่มีกรอบ ให้กลายเป็นเกมแนว OpenWorld แบบเต็มตัว ผู้เล่นสามารถเดินทางไปได้ทุกทิศ โดยไม่มีลำดับการเล่นตายตัว ทำให้ประสบการณ์การเล่นของผู้เล่น แต่ละคน มีประสบการณ์การเล่นที่แตกต่างกันออกไป

อะไรคือจุดด้อยของเกม ภาคสการ์เล็ตและไวโอเล็ต?

ความยิ่งใหญ่ ที่เกมภาคสการ์เล็ตไวโอเล็ต กำลังพยายามสร้างนั้น ก็เผยให้เห็นขอบเขตของเทคโนโลยี ที่ยังไปไม่ถึง จุดที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด คือปัญหาด้านกราฟิก กับประสิทธิภาพ อย่างเช่น มีอาการเฟรมเรตตก หรือฉากเรนเดอร์ล่าช้า ทำให้ประสบการณ์การเล่นภาพรวม อาจยังไม่มีความลื่นไหลมากนัก

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง