รีวิว Pokemon ซอร์ดชิลด์ จากปี 2019 เกมภาคแรก ของเจน 8

รีวิว Pokemon ซอร์ดชิลด์

รีวิว Pokemon ซอร์ดชิลด์ เกมโปเกมอนที่เปิดตัวให้เล่น ในปี 2019 ต่อจากเกมเจน 7 อย่าง รีวิว Pokemon เล็ทส์โกปิกาจู จากบทความก่อนหน้านี้ โดยเกมภาคซอร์ดชิลด์ ที่จะถูกยกนำมารีวิวนี้ เป็นเกมของผู้ผลิตที่ต้องพิสูจน์ว่าตัวเอง จะก้าวข้ามขอบเขตของเครื่องพกพา สู่คอนโซลเต็มตัวได้ หรือไม่

  • เบื้องหลังการสร้างเกมในฝัน แต่เต็มไปด้วยข้อจำกัด
  • จุดเด่นจุดด้อยเกมโปเกมอน ภาคซอร์ดแอนด์ชิลด์

การสร้างเกม Pokemon ซอร์ดชิลด์ ในฝัน ที่มีข้อจำกัด

รีวิว Pokemon ซอร์ดชิลด์

เกมโปเกมอน ภาคซอร์ดชิลด์ จากแฟรนไชส์ Pokemon เป็นเกมที่ทาง Game Freak ต้องการสร้างสรรค์ออกมาให้เป็นเกม ที่ไม่ได้ถูกจดจำเพียงในฐานะเกม เป็นการสร้างเกมเจนใหม่ ให้โลกเห็นการต่อสู้ระหว่างความฝัน ของทีมผู้พัฒนา กับข้อจำกัดของเวลาจริงที่พวกเขาต้องเผชิญ (7 กันยายน 2025) [1]

ซึ่งการสร้างเกมภาคนี้ กว่าจะให้กลายเป็นที่จดจำของแฟนเกมเก่า ในปัจจุบันได้นั้น ในช่วงปี 2017 ถึงปี 2019 การสร้างเกมภาคนี้มา จึงไม่ต่างจากการทดลองสร้างโลกใหม่ ภายใต้แรงกดดันจากความสำเร็จในอดีต และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ที่กำลังจะถูกเปิดออกใน 2 หัวข้อต่อไป

วิสัยทัศน์การพัฒนาเกมเจน 8 ของทีมผู้พัฒนา

เกมโปเกมอน ภาค SwordandShield ผลิตจากทาง GameFreak โดยเป็นเกมที่รับมอบหมายให้เริ่มต้นภารกิจใหม่ สำหรับการสร้างที่ต้องใช้เล่นบน Nintendo Switch ด้วยความตั้งใจจะสร้างเกมที่ยกระดับโปเกมอน สู่โลกแห่งเกมคอนโซลอย่างเต็มรูปแบบ เป็นครั้งแรก (7 ตุลาคม 2025) [2]

วิสัยทัศน์ของทีมในตอนนั้น ไม่ใช่เพียงการทำกราฟิกให้สวยขึ้น แต่เป็นการสร้างเกมที่สามารถให้ความรู้สึกเป็นโลกจริง ของโปเกมอนได้ ในระดับที่ผู้เล่นมีอิสระมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา การออกแบบภูมิภาค Galar จึงถูกคิดขึ้นโดยตั้งคำถามว่าถ้าโปเกมอน อยู่ในโลกที่มีรถไฟ และอุตสาหกรรมจริง ๆ จะเป็นยังไง

และทั้งหมดได้กลายเป็นแนวคิดหลักของเกม ที่ต่างจากเกมภาคก่อนหน้าทั้งหมด แต่ทางผู้ผลิตเอง ก็ต้องแบกรับความคาดหวังจากแฟนเกมของแฟรนไชส์ การสร้างเกมบน Switch จึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคที่ต้องปรับเปลี่ยนอย่างเดียว แต่เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดการทำงานของทีมผู้พัฒนา ให้เข้ากับเกมยุคใหม่

บทเรียนที่ทีมผู้พัฒนาเกมโปเกมอนภาคนี้ได้รับ

เกมโปเกมอน SwordShield คือบทเรียนที่พิสูจน์ว่า ความทะเยอทะยานเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอสำหรับเกมที่ถูกคาดหวังในระดับโลก การลดขนาด Pokedex, ปัญหาแอนิเมชันภาพฉายซ้ำ และข้อจำกัดด้านการเป็นเกมเปิดโลกใหม่ ไม่ได้เป็นเพียงความผิดพลาดทางเทคนิค ในการพัฒนา (2025) [3]

แต่เป็นการสะท้อนของกรอบเวลา และทรัพยากรที่ไม่สมดุลกับความฝัน ในการสร้างเกมที่ตั้งเอาไว้แต่แรก ซึ่งเกิดขึ้นกับหลายสตูดิโอ ที่ต้องขยับจากเครื่องพกพามาสู่คอนโซล ครั้งแรก และจุดนี้เองที่ทำให้ผู้ผลิตเกม ยอมรับว่าเกมโปเกมอน ในยุคหลัง 2019

ไม่อาจพัฒนาเกมแบบแนวคิดเดิมได้ อีกต่อไป เพราะโลกของเกมได้เปลี่ยนไปเป็นยุคที่ผู้เล่น คาดหวังการอัปเดตแบบต่อเนื่อง และการที่ผู้เล่นมีส่วนร่วมกับเกมได้ อย่างแท้จริง

จุดเด่นกับจุดด้อย ของ Pokemon Sword and Shield

รีวิว Pokemon ซอร์ดชิลด์

เมื่อเข้าใจเจตนาและข้อจำกัด ในการสร้างเกมโปเกมอนภาคนี้เบื้องหลังแล้ว สิ่งที่จะพามาดูต่อ คือสิ่งใดที่ส่งผลให้เกมภาคนี้ ยังคงถูกพูดถึงกันอยู่ในปัจจุบัน โดยข้อมูลการพูดถึงจุดเด่น กับจุดด้อย ว่ามีสิ่งใดบ้างที่ยังทำให้เกมยังคงได้รับความสนใจ จากแฟนเกม และสิ่งใดที่เป็นจุดด้อยที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ

สิ่งที่ตัวเกมโปเกมอนซอร์ดชิลด์ทำได้โดดเด่น

สิ่งที่ทำให้เกมโปเกมอนภาคนี้ยังได้ความสนใจ จากแฟนเกมในปัจจุบัน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ต่าง ๆ มากมาย คือการออกแบบการเล่นให้เข้าถึงง่าย แต่ยังมีความยากซ่อนอยู่ โดยเกมภาคนี้ เป็นก้าวแรกที่พยายามสร้างเกมแบบกึ่งเปิดโลก ให้แฟนโปเกมอนรู้สึกว่า นี่คือโลกของจริง

ที่มีโปเกมอนมีชีวิตอยู่ในสถานที่เหล่านั้น ซึ่งเป็นพื้นที่ Wild Area ที่ผู้เล่นสามารถพบโปเกมอน ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในเกมแบบเรียลไทม์ สามารถหมุนกล้องได้อิสระ และปรับระดับความยาก ตามสภาพอากาศได้เอง ถือเป็นการเปลี่ยนโครงสร้าง จากระบบสุ่มปรับแบบเก่าอย่างสิ้นเชิง

นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2019 เกมโปเกมอนภาคนี้ ก็ได้กลายเป็นประตูต้อนรับแฟนเกมรุ่นใหม่หลายล้านคน เข้าสู่เกมของแฟรนไชส์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เล่น อายุ 10 ถึง 20 ปีที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ซึ่งคิดเป็น 40% ของฐานผู้เล่นทั่วโลก ที่เปิดตัวเกมให้เล่นในปีแรก

อะไรคือจุดอ่อนของเกมโปเกมอน ภาคนี้

แม้เกมภาคนี้ จะสร้างโลกได้ใหญ่ขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เล่นบางส่วน รู้สึกว่าเกมยังขาดความสมดุล ระหว่างภาพลักษณ์ที่ดูยิ่งใหญ่ กับเนื้อหาในเกมบางส่วน มีเนื้อหาที่ดูสั้นเกินไป และระบบ Dynamax ของเกมภาคใหม่ในเจน 8 ที่ควรเป็นจุดเด่นของเกม กลับกลายเป็นดาบสองคม

เพราะเมื่อทุกคนสามารถใช้ได้ ระบบนี้ก็ลดความจำเป็น ในเรื่องของการใช้ทักษะการวางแผน ด้านกลยุทธ์ด้วย อีกทั้งแอนิเมชัน และโมเดลที่ซ้ำจากภาคก่อน ทำให้ภาพรวมดูเหมือนถูกเร่งผลิต มากกว่าถูกสร้างให้เป็นเกมภาคใหม่ ของเจเนอเรชัน 8 

โดยปัญหาเหล่านี้ คือปัญหาที่เด่นชัด เมื่อเทียบกับมาตรฐานเกมบนเครื่องเล่นเกม Switch ในยุคเดียวกัน เช่น The Legend of Zelda : Breath of the Wild ปี 2017 ที่สามารถใช้โลกที่มีพื้นที่กว้างได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ลดทอนคุณภาพ ของการออกแบบภายในตัวเกม

สรุป รีวิวโปเกมอน ซอร์ดแอนด์ชิลด์ เจเนอเรชัน 8

รีวิวเกมโปเกมอน ซอร์ดแอนด์ชิลด์ ซีรีส์เกมแฟรนไชส์โปเกมอน ภาคแรก ในเจเนอเรชัน 8 ที่ต้องอาศัยเวลา ต้องอาศัยประสบการณ์การผลิตเกม ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสร้างเกม ให้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ จนกลายเป็นเกมโปเกมอน ที่ได้รับการยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์ บางครั้ง ก็เป็นก้าวแรกของการเติบโตได้

เกมโปเกมอน ภาคซอร์ดแอนด์ชิลด์ เหมาะกับใครบ้าง?

เกมโปเกมอน ภาคซอร์ดชิลด์ เหมาะกับผู้เล่นที่มองหาประสบการณ์ ในการเริ่มต้นใหม่ มากกว่าความต่อเนื่องจากเกมภาคเดิมในอดีต โดยเฉพาะกลุ่มผู้เล่นที่ต้องการเกม แนวผจญภัยแบบเบา ๆ ที่ชอบเล่นเกมที่มีระบบการเล่น ที่สามารถทำความเข้าใจได้เร็ว และเป็นเกมที่มีภาพสวย รวมถึงทันสมัย

เกมโปเกมอน ภาคซอร์ดชิลด์ เป็นเกมที่ไม่เหมาะกับใคร?

เกมภาคนี้ อาจไม่เหมาะกับผู้เล่นที่หลงใหลระบบต่อสู้แบบดั้งเดิม หรือคาดหวังความสมบูรณ์ของโปเกมอน เหมือนภาคก่อน ๆ เพราะเกมภาคซอร์ดแอนด์ชิลด์ ลดรายละเอียดหลายส่วนลง เพื่อแลกกับการนำเสนอที่เข้าถึงง่ายกว่า ผู้เล่นสายวางกลยุทธ์ อาจรู้สึกว่าเกมยังคงขาดเอกลักษณ์ ในส่วนนี้ไป

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง