รีวิว โปเกมอนรัมเบิล World ซีรีส์เกมย่อยที่ 4 ของภาครัมเบิล

รีวิว โปเกมอนรัมเบิล World

รีวิว โปเกมอนรัมเบิล World ซีรีส์เกมภาคย่อยเกมที่ 4 ที่ต้องการปรับตัวให้สอดรับกับทิศทางใหม่ ของตลาดเกมพกพา ต่อจากเกมใน รีวิว โปเกมอนรัมเบิล U ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเกมที่กำลังพัฒนาแนวทาง Free to Start และระบบ Microtransaction นำเข้ามาใช้งาน ในเกมอย่างจริงจัง

  • ความเป็นมาโปเกมอน ภาค RumbleWorld
  • การเล่นเกมภาคนี้ และกระแสหลังเปิดตัว

ความเป็นมาโปเกมอนรัมเบิลเวิลด์ เกมที่ 4 ในซีรีส์รัมเบิล

รีวิว โปเกมอนรัมเบิล World

ทิศทางใหม่ที่จะขยายโลกของเกมซีรีส์ Rumble จากแฟรนไชส์ Pokemon ที่เน้นไปที่เรื่องราวของตุ๊กตาของเล่นโปเกมอน ให้กว้างกว่าเดิม เกิดขึ้นเมื่อปี 2015 ที่ผู้ผลิตต้องการทำให้เกมภาคนี้ มีความครบเครื่องทั้งในด้านจำนวนโปเกมอน และวิธีที่ผู้เล่นมีปฏิสัมพันธ์กับเกม (27 พฤศจิกายน 2025) [1]

การมาถึงของ Pokemon ภาค RumbleWorld บนเครื่องเล่นเกม 3DS จึงไม่ใช่เพียงการทำหน้าที่เป็นเกมภาคต่อ แต่เป็นการทดลองครั้งสำคัญของซีรีส์เกมภาคนี้ ในการปรับสเกลประสบการณ์ให้ใหญ่ขึ้น พร้อมทดสอบโมเดลใหม่ ในบริบทของเกมแอคชันแบบเล่นไว

พื้นฐานการพัฒนาเกม Pokemon ภาคนี้

การถือกำเนิดของ Pokemon Rumble World ที่เปิดตัวให้เล่นวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี 2015 บน Nintendo 3DS เกิดขึ้นในช่วงที่ซีรีส์เกมภาครัมเบิล ต้องการขยับขยายตัวตน หลังจากภาคก่อนหน้า อย่างเกม Rumble U จากปี 2013 ทีมพัฒนา มองเห็นความจำเป็น (20 พฤศจิกายน 2025) [2]

ที่จะต้องทำให้ของเล่นโปเกมอนมีชีวิต เติบโตไปในขอบเขตที่กว้างขึ้นกว่าเดิม ทั้งในเชิงจำนวนโปเกมอน และความยืดหยุ่นของการเข้าถึงเกม เนื่องจากเครื่องเล่นเกมนินเท็นโด 3DS มีฐานผู้เล่นจำนวนมาก กับเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนเกม แนวเล่นสั้น ๆ ได้ดี

โครงสร้างของเกมภาค RumbleWorld จึงสะท้อนทั้งประสบการณ์เดิมของซีรีส์ และความพยายามในการขยายขอบเขตครั้งใหญ่ ผ่านจำนวนโปเกมอน ที่เพิ่มขึ้นเป็น 719 ตัว ครอบคลุมถึงเจเนอเรชัน VI ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในซีรีส์เกมภาครัมเบิล ในช่วงนั้น

เนื้อหาของเกม ที่ต้องการนำเสนอออกมา

ความตั้งใจหลักสำหรับการนำเสนอเนื้อหา ในเกมโปเกมอนภาคนี้ คือการทำให้โลก Kingdom of Toys มีความมีชีวิตชีวา มากกว่าเดิม ผ่านการสร้างพื้นที่หลากหลายให้สำรวจ ด้วยระบบบอลลูน และการใช้ Mii เป็นตัวแทนผู้เล่น เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างโลกของเล่น กับตัวตนของผู้เล่นจริง

ความเป็นของเล่น ไม่ได้ถูกนำเสนอเพียงผ่านรูปลักษณ์ ของโปเกมอนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนผ่านโครงสร้างพื้นที่ที่แบ่งเป็นโซน แบบธีมของเล่นต่าง ๆ ทำให้เป้าหมายหลักของเกมชัดเจนขึ้น ว่าผู้เล่นควรรู้สึกเหมือนกำลังออกสำรวจโลก ของเล่นใบใหญ่ ที่เต็มไปด้วยโปเกมอนจากหลายยุค (2025) [3]

ในอีกด้านหนึ่ง เกมตั้งใจทดลองโมเดลฟรีทูสทาร์ท ผ่านการใช้ Poke Diamonds เป็นสกุลเงินพิเศษ ที่ช่วยปลดล็อกสิ่งอำนวยความสะดวก โดยไม่บังคับให้ต้องเสียเงินจริง แนวคิดนี้สะท้อนความพยายาม ในการต้องการทดสอบว่า Microtransaction จะสามารถเข้ากับเกมแอคชัน แบบเล่นสั้นได้ หรือไม่

การเล่นเกมโปเกมอนภาคนี้ และกระแส หลังจากเปิดตัว

รีวิว โปเกมอนรัมเบิล World

เมื่อเข้าใจเจตนาของทีมพัฒนา และภาพรวมของโลกคิงดอมออฟทอยส์ไปแล้ว สิ่งต่อมาคือการมองลงไปในวิธีที่เกมโปเกมอน ภาครัมเบิลเวิลด์นี้ ถ่ายทอดแนวคิดเหล่านั้น ผ่านรูปแบบการเล่นจริง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในสายตาของผู้เล่นนั้น เป็นอย่างไร เพราะกลไกของเกมคือหัวใจที่กำหนด

ว่าความตั้งใจเรื่องการสำรวจ การสะสม และโมเดล จะถูกตีความอย่างไร ในการเล่นจริง เมื่อระบบการเล่นผสานเข้ากับความคาดหวังของแฟนเกม ในช่วงนั้น เสียงสะท้อนของผู้เล่น และนักวิจารณ์ จึงกลายเป็นภาพรวมสำคัญที่ช่วยให้เห็นชัดว่าเกมภาคนี้ ยืนอยู่ตรงไหนในแฟรนไชส์โปเกมอน

ระบบการเล่นเกมโปเกมอน รัมเบิลเวิลด์

รูปแบบการเล่นของเกมโปเกมอน รัมเบิลเวิลด์ ยังคงยืนอยู่บนแกนเกมแอคชัน มุมมองด้านบน ที่ใช้เพียงไม่กี่ปุ่มในการควบคุม แต่ภาคนี้ขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น ด้วยพื้นที่สำรวจที่หลากหลายกว่าเดิม ผู้เล่นจะได้ควบคุมตัวละคร Mii ที่เดินทางไปยังดินแดนต่าง ๆ ผ่านระบบบอลลูน

ซึ่งจะสุ่มสถานที่ และโปเกมอนที่สามารถพบได้ ในแต่ละครั้ง ทำให้โครงสร้างของเกม หมุนอยู่กับการต่อสู้ในดันเจี้ยนแบบสั้น ๆ ต่อด้วยการสะสมโปเกมอนแบบสุ่ม หลังจบด่าน แนวคิดนี้ สอดคล้องกับคอนเซปต์ของเล่นมีชีวิต ที่ต้องการให้ผู้เล่นรู้สึก เหมือนกำลังเปิดแคปซูลของเล่นทุกครั้ง ที่ออกเดินทาง

ในขณะเดียวกัน ระบบ Adventure Rank ถูกออกแบบให้เป็นตัวกำหนดการเข้าถึงพื้นที่ใหม่ ๆ และไอเทมที่ช่วยให้การสำรวจราบรื่นขึ้น ทำให้การเติบโตในเกม ไม่ได้เกิดจากการเล่าเรื่อง แต่เกิดจากการสะสมความก้าวหน้า ในรูปแบบคล้ายเกมแนว Collection Based อื่น ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม ในช่วงปี 2015

กระแสตอบรับ จากทั่วโลก หลังจากเกมเปิดตัว

กระแสตอบรับของเกมโปเกมอน ภาคนี้ มีเสียงตอบรับแยกออกเป็น 2 ทิศทาง คล้ายกับเกมภาคก่อนในซีรีส์รัมเบิล โดยด้านหนึ่ง นักวิจารณ์และผู้เล่นจำนวนหนึ่ง มองว่าเกมภาคนี้ตอบโจทย์ สำหรับผู้เล่นสาย Casual ได้ดี ด้วยการเข้าถึงที่ง่าย และมีจังหวะเกมที่รวดเร็ว รวมถึงมีจำนวนโปเกมอนที่หลากหลาย

ทำให้การสะสมตัวละคร กลายเป็นสิ่งสนุกในตัวเอง คะแนนเฉลี่ยจากหลายสื่อ มีคะแนนเกมอยู่ที่ 56% สะท้อนว่าภาคนี้ ให้ประสบการณ์เล่นสั้นที่เข้าถึงง่าย แต่ยังไม่ถูกมองว่าโดดเด่นด้านระบบ หรือความลึก สำหรับกลุ่มผู้เล่นที่คาดหวังอะไรมากกว่านั้น

ในอีกด้านหนึ่ง ความคิดเห็นเชิงลบ มักชี้ไปที่ปัญหาคลาสสิกของซีรีส์เกมภาครัมเบิล รวมถึงโครงสร้างด่านที่ซ้ำ และระบบต่อสู้ที่ไม่มีความหวือหวา จนไม่สามารถสร้างความท้าทายระยะยาวได้ แม้ว่าจำนวนโปเกมอนที่เยอะ จะเป็นจุดขายที่แข็งแรง แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชยความซ้ำซาก ของการเล่นได้

สรุป รีวิวเกมโปเกมอน รัมเบิลเวิลด์ ซีรีส์เกมแนวแอคชัน

ภาพรวมของเกมโปเกมอน ภาครัมเบิลเวิลด์ แสดงให้เห็นถึงความพยายามขยายตัวตน ของซีรีส์รัมเบิล ไปสู่สเกลที่ใหญ่ขึ้น ทั้งจำนวนโปเกมอนที่ครอบคลุม 6 เจเนอเรชัน และรูปแบบการสำรวจที่หลากหลายขึ้น ผ่านดินแดนต่าง ๆ ของคิงดอมออฟทอยส์

จุดเด่นของ Pokemon รัมเบิลเวิลด์ คืออะไร?

จุดเด่นของโปเกมอนรัมเบิลเวิลด์ อยู่ที่การขยายสเกลของซีรีส์ภาครัมเบิลให้ใหญ่ขึ้น อย่างเห็นได้ชัด ทั้งจำนวนโปเกมอน และระบบสำรวจด้วยบอลลูน ที่ทำให้โลกคิงดอมออฟทอยส์ มีชีวิตชีวามากกว่าภาคก่อน ทั้งหมดนี้ รวมกันกลายเป็นเกมที่สามารถหยิบขึ้นมาเล่น แล้วสนุกได้เลยทันที

ข้อเสียของเกมโปเกมอน ภาครัมเบิล World คืออะไร?

ข้อจำกัดสำคัญของเกมภาคนี้ มาจากการวนซ้ำของด่าน และระบบต่อสู้ ที่ไม่มีความน่าตื่นเต้นมากนัก ซึ่งแม้จะเข้ากับคอนเซปต์เล่นง่ายของซีรีส์ แต่ก็ทำให้เกมขาดแรงดึงดูด โดยเฉพาะเมื่อผู้เล่นเริ่มสะสมโปเกมอนจำนวนมาก และพบว่าประสบการณ์ของด่านต่าง ๆ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง