
รีวิวโปเกมอน Battle โทรเซย์ ซีรีส์เกมปริศนาใหม่ จากปี 2014
- Good Day's
- 35 views

รีวิวโปเกมอน Battle โทรเซย์ เกมภาค Spin Off ที่สะท้อนช่วงเวลาการทดลองแนวทางใหม่ ภาคต่อของ รีวิว โปเกมอน โทรเซย์ ก่อนหน้านี้ จากซีรีส์เกมโปเกมอน ตัวเกมเลือกนำโครงสร้างของเกมพัซเซิล มาผสานเข้ากับระบบการต่อสู้ และการแพ้ชนะตามธาตุของตัวละคร ภายในเกม

ก่อนจะลงลึกถึงรายละเอียด ของตัวเกมภาค BattleTrozei จากแฟรนไชส์ Pokemon ทั้งในมุมมองของความเป็นมา และแนวคิดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง จำเป็นต้องมองเกมภาคนี้ ในฐานะผลลัพธ์ของการทดลอง มากกว่าจะมองเป็นเพียงเกมพัซเซิลอีกหนึ่งเกม ในจักรวาลโปเกมอน (8 ธันวาคม 2025) [1]
ตัวเกมถือกำเนิดขึ้นจากช่วงเวลาที่ซีรีส์โปเกมอน เริ่มขยายขอบเขตของตัวเอง ออกไปนอกกรอบเดิม ทั้งในเชิงแพลตฟอร์ม และกลุ่มเป้าหมาย การทำความเข้าใจจุดเริ่มต้น และสิ่งที่ผู้พัฒนาพยายามสื่อสาร จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เห็นว่าเกมนี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับเกมภาคหลัก โดยตรง
Pokemon Battle Trozei เปิดตัวให้เล่นครั้งแรก ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ปี 2014 บนเครื่อง Nintendo 3DS ในฐานะเกมภาคเสริมแนวพัซเซิล ที่ต่อยอดมาจาก Pokemon ภาค Trozei ที่เคยวางจำหน่ายบนเครื่องเล่นเกม รุ่น DS ตั้งแต่ปี 2005 (17 สิงหาคม 2025) [2]
ความต่างสำคัญของเกมภาคนี้ คือการไม่เพียงนำภาพลักษณ์ของโปเกมอน มาใช้เป็นธีมหลักของเกม แต่พยายามดึงโครงสร้างการต่อสู้ จากซีรีส์เกมภาคหลัก เข้ามาผสานกับรูปแบบการเล่น แบบจับคู่ไอคอน อย่างจริงจัง
เกมถูกพัฒนาโดย Genius Sonority ซึ่งเป็นทีมที่คุ้นเคยกับการสร้างเกมโปเกมอน นอกกระแสหลักมาก่อน ทำให้เกมภาคนี้ ถูกวางตำแหน่งชัดเจนว่าเป็นเกมทดลองแนวคิด มากกว่าจะเป็นเกมภาค Spin Off เชิงเนื้อเรื่อง
แก่นหลักที่ Pokemon ภาค BattleTrozei ต้องการสื่อสาร คือการทดลองตั้งคำถามว่า ถ้าการต่อสู้ของโปเกมอน ไม่ได้เกิดในฉากเทิร์นเบส แต่เกิดบนกระดานพัซเซิล จะเป็นอย่างไร เกมจึงได้นำระบบแพ้ทางของธาตุ และการเลือกโปเกมอนให้เหมาะกับสถานการณ์ มาเชื่อมโยงกับการเรียงไอคอนบนจอ
ทำให้การเล่นเกมโปเกมอน BattleTrozei ไม่ได้อาศัยแค่ความเร็ว หรือต้องพึ่งดวง แต่ต้องอาศัยความเข้าใจระบบเกม ของซีรีส์เกมภาคหลักด้วย แนวคิดนี้สะท้อนความพยายามของทีมพัฒนา ในการทำให้เกมพัซเซิลภาคนี้ มีน้ำหนักเชิงกลยุทธ์ มากกว่าการเป็นเกมฆ่าเวลา เพียงอย่างเดียว (2025) [3]
โดยข้อมูลจากการประเมินแนวโน้มตลาดเกมพัซเซิล ในช่วงใกล้เคียงปี 2014 พบว่า ผู้เล่นใหม่ที่ไม่คุ้นเคย กับระบบเกมเชิงลึก มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงต้นทศวรรษเดียวกัน แนวโน้มนี้ สะท้อนออกมาผ่านดีไซน์ของเกมภาคนี้ ที่เลือกอธิบายระบบผ่านการเล่นจริง มากกว่าการเล่นแบบระยะยาว

เมื่อพิจารณาแนวคิด และเป้าหมายของเกมนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการมองลงไปที่ประสบการณ์จริงขณะเล่น กับเสียงสะท้อนต่าง ๆ หลังเกมวางจำหน่าย ว่าสิ่งที่ผู้พัฒนาตั้งใจไว้ ถูกถ่ายทอดออกมาได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งการทำความเข้าใจสองส่วนนี้ จะช่วยให้เห็นตำแหน่งที่แท้จริงของเกมภาคนี้ มากยิ่งขึ้น
แกนหลักของโปเกมอน Battle Trozei คือการนำรูปแบบเกมพัซเซิล แบบจับคู่ไอคอน มาผูกเข้ากับระบบการต่อสู้ของโปเกมอน ผู้เล่นต้องจัดเรียง Icon ที่เป็นรูปภาพโปเกมอน บนกระดานด้านล่าง เพื่อสร้างการโจมตี ไปยังภาพโปเกมอนที่อยู่ด้านบนของจอ
โดยการจับคู่ไม่ได้มีผลแค่จำนวนครั้ง ของการโจมตี แต่ยังเชื่อมโยงกับธาตุ และความได้เปรียบเสียเปรียบแบบเดียว กับซีรีส์เกมภาคหลัก ระบบการเล่นเหล่านี้ ทำให้การเล่นเกมในปี 2014 ไม่ได้อาศัยเพียงความเร็ว หรือการมองแพตเทิร์น
แต่ต้องอาศัยความเข้าใจ ระบบการเล่นเกมภาคหลัก ควบคู่กันไปด้วย เมื่อเล่นต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าเกม ภาคแบทเทิลโทรเซย์ จะออกแบบจังหวะความยากให้ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น โดยเป็นระดับความยาก ที่บังคับให้ผู้เล่นต้องเริ่มวางแผน มากกว่าแค่การสุ่มจับคู่ของภาพ
หลังวางจำหน่าย เกมโปเกมอนภาคนี้ ได้รับกระแสตอบรับในระดับกลาง ๆ แต่มีความชัดเจนในตัวตน โดยนักวิจารณ์จำนวนมาก มองว่าเกมมีไอเดียที่น่าสนใจ ในการผสมระบบโปเกมอนเข้ากับพัซเซิล แต่ยังไม่ถึงขั้นพลิกโฉมแนวเกมไปทั้งหมด
ทำให้คะแนนรีวิวที่ได้รับจำนวน 70% จากสื่อเกมช่วงปี 2014 สะท้อนภาพออกมาให้เห็นที่ค่อนข้างตรงกัน คือยอมรับในความตั้งใจของเกม แต่ยังมองว่ารูปแบบการเล่น อาจมีรูปแบบซ้ำ สำหรับผู้เล่นที่คาดหวังความสนุกในแบบที่ไม่เหมือนเดิม และในฝั่งของแฟนเกม เสียงตอบรับมีความแตกต่างกันชัดเจน
โดยระหว่างผู้เล่นเกมภาคหลัก ต่างชื่นชอบการได้เห็นระบบธาตุ และระบบจัดการทีมถูกย่อส่วนให้เล่นง่ายขึ้น แต่สำหรับผู้เล่นเกมแนวพัซเซิลบางส่วน กลับมองว่าการพึ่งพาความรู้เรื่องโปเกมอน อาจเป็นอุปสรรคต่อการเล่นเกม
Pokemon BattleTrozei เป็นเกมที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี ในการเป็นสะพานเชื่อม ระหว่างเกมพัซเซิล และซีรีส์เกมโปเกมอนภาคหลัก แม้รูปแบบการเล่น จะไม่ได้ซับซ้อน หรือแปลกใหม่มากนัก แต่การนำระบบธาตุ และนำการวางแผนมาใส่ไว้ บนกระดานเกมพัซเซิล ก็ทำให้เกมภาคนี้ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จุดเด่นที่ชัดที่สุดของเกมภาคนี้ คือการนำโครงสร้างการต่อสู้แบบโปเกมอน มาวางทับบนเกมพัซเซิลได้อย่างมีความหมาย ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนไอคอน ให้เป็นตัวละครที่คุ้นตา แต่เป็นการบังคับให้ผู้เล่น ต้องคิดเรื่องธาตุ ความได้เปรียบเสียเปรียบ และการเลือกใช้โปเกมอน ให้เหมาะกับสถานการณ์จริง
จุดด้อยเกม BattleTrozei คือการที่เกมพึ่งพาความเข้าใจ ระบบโปเกมอนค่อนข้างมาก ทำให้ผู้เล่นที่มองหาเกมพัซเซิลล้วน ๆ อาจรู้สึกว่าการเล่น มีเงื่อนไขเกินจำเป็น อีกทั้งโครงสร้างด่าน และกลไกหลัก ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก ส่งผลให้ประสบการณ์การเล่นระยะยาว อาจมีการเล่นที่ซ้ำรูปแบบเดิม

