รีวิวโปเกมอน โคลอสเซียม เกมวิดีโอเล่นตามบทบาท ของปี 2003

รีวิวโปเกมอน โคลอสเซียม

รีวิวโปเกมอน โคลอสเซียม ปี 2003 เปิดประตูสู่โลกใหม่ ของเกมแฟรนไชส์ Pokemon ที่ไม่ได้เป็นเกมที่มีทุ่งหญ้าสีเขียวขจี หรือมีแสงอาทิตย์แห่งความเป็นมิตรภาพ แต่เป็นโลกแห้งแล้ง ที่เต็มไปด้วยความเงียบ และเต็มไปด้วยความลับ ที่ทางผู้ผลิต ต้องการทำให้โปเกมอนเติบโตไป พร้อมกับผู้เล่น

  • จุดกำเนิดเกมภาคโคลอสเซียม และสิ่งที่เกมนำเสนอ
  • รูปแบบการเล่นเกมภาคนี้ และกระแสตอบรับ

รีวิวโปเกมอน โคลอสเซียม จุดกำเนิดเกมแห่งความเงียบ

รีวิวโปเกมอน โคลอสเซียม

หลังจากยุคของเกมภาค Box Ruby & Sapphire ในแฟรนไชส์เกมโปเกมอน ที่เขียนไปในบทความ รีวิวโปเกมอน Box Ruby ก่อนหน้า ได้เปิดตัวเกมด้วยการเน้นการจัดเก็บ และเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครื่องเล่นเกม เกมต่อมาที่เปิดตัวบน GameCube อย่างการที่นำมารีวิวนี้ (27 ตุลาคม 2025) [1]

กลับเลือกเดินคนละเส้นทาง แทนที่จะเป็นเกมที่พูดถึงระบบ กลับกลายเป็นเกมที่พูดถึงจิตใจ ของโปเกมอนแทน เกมโปเกมอนภาคโคลอสเซียม จึงถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่พาแฟรนไชส์เกมนี้ ออกจากโลกแห่งความสดใส สู่พื้นที่ที่เข้มข้น และมีคำถามทางศีลธรรม แฝงอยู่ในทุกฉากของเกม

จุดกำเนิดเกมโปเกมอน ภาคโคลอสเซียม

Pokemon Colosseum ที่เปิดตัวให้เล่นวันที่ 21 พฤศจิกายน ปี 2003 ถือเป็นการเปลี่ยนทิศทางของเกม ในแฟรนไชส์ครั้งใหญ่ ตั้งแต่ยุค Game Boy โดย Nintendo และทีมพัฒนา Genius Sonority ตั้งใจให้เกมนี้ เป็นเวทีของความจริง มากกว่าเป็นโลกเกมแนวแฟนตาซี ที่ผู้เล่นคุ้นเคย (22 สิงหาคม 2025) [2]

การสร้างเกมบนเครื่อง GameCube ไม่ได้เป็นเพียงการอัปเกรดกราฟิก แต่เป็นการเปิดมิติใหม่ของเกมซีรีส์นี้ ที่กล้าเล่าเรื่องในโทนเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม โดยการมีภูมิภาค Orre ที่แห้งแล้ง แทนการมีเมืองที่มีสีสันสดใส และมีตัวละครเอกที่ไม่ใช่เด็กฝึกหัด

แต่เป็นอดีตสมาชิกองค์กรร้าย ที่พยายามไถ่บาปของตนเอง จุดเปลี่ยนนี้ สะท้อนแนวทางของ Nintendo ที่ต้องการขยับภาพลักษณ์ของเกมโปเกมอน ให้เติบโตไปพร้อมผู้เล่นรุ่นแรก

สิ่งที่ผู้พัฒนาต้องการนำเสนอออกมา ในเกมภาคนี้

สิ่งที่เกมโปเกมอน โคลอสเซียม ต้องการนำเสนอไม่ใช่เพียงระบบการต่อสู้ใหม่ แต่เป็นน้ำหนักของความรับผิดชอบ ที่มาพร้อมการเป็นเทรนเนอร์ โดยผู้เล่นต้องเผชิญกับโปเกมอนที่ถูกทำให้กลายเป็น Shadow Pokemon ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญเสียจิตใจ จากการทดลองขององค์กรร้าย (2025) [3]

และหน้าที่ของเราคือการชิงเหล่ามอนสเตอร์ที่ถูกทดลอง กลับมาชำระล้างให้กลายเป็นมอนสเตอร์ แบบปกติทั่วไป ความตั้งใจของทีมพัฒนา คือการสร้างอารมณ์ผูกพันผ่านภารกิจ ที่ไม่ใช่การล่า แต่เป็นการช่วยให้โปเกมอน กลับคืนสู่สภาพเดิม เป็นการเปลี่ยนจุดโฟกัสของเกม ในแฟรนไชส์นี้

จากการเป็นต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงความเป็นหนึ่ง สู่การเยียวยารักษามอนสเตอร์แบบเต็มตัว ในอีกมุมหนึ่ง เกมยังสะท้อนแนวคิดการเติบโตของแฟนเกม ผ่านเนื้อเรื่องที่มีโทนเข้มข้น และฉากเมืองรกร้าง ที่สื่อถึงโลกที่ไม่มีความสมบูรณ์แบบเดิม อีกต่อไป

พื้นฐานการเล่นโปเกมอนภาคนี้ และกระแสตอบรับ

รีวิวโปเกมอน โคลอสเซียม

เมื่อเข้าใจแนวคิด และแรงบันดาลใจ ในการสร้างเกมภาคนี้ขึ้นมาแล้ว สิ่งที่จะพาทำความเข้าใจต่อมา คือการสำรวจว่าความตั้งใจเหล่านั้น ถูกถ่ายทอดออกมาในเกมจริงได้มากน้อยเพียงใด เพราะจุดเด่นของภาคนี้ ไม่ได้อยู่แค่ในเรื่องราว หรือภาพลักษณ์ที่เติบโตขึ้น

แต่ยังอยู่ในระบบการเล่น ที่ทำหน้าที่เล่าเรื่องแทนคำพูด และกระแสตอบรับ ที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้เล่นยุคนั้น กำลังเผชิญความเปลี่ยนแปลง ของซีรีส์เกมครั้งใหญ่ ระหว่างความคุ้นเคยในวัยเด็ก กับความจริงจังที่เกมกำลังพาผู้เล่นเหล่านั้น เข้าสู่โลกของการเป็นผู้ใหญ่

ระบบการเล่นเกมภาค Colosseum เบื้องต้น

เกมนี้ไม่มีโปเกมอนป่า ไม่มีการเดินทางในทุ่งหญ้า หรือการจับด้วย Poke Ball แต่ทุกการต่อสู้ คือการแย่งชิงและชำระล้าง เหล่า Shadow Pokemon จากฝ่ายตรงข้าม กลไกนี้ ทำให้การต่อสู้ ไม่ได้มีการเดิมพันแค่ชัยชนะ แต่กลายเป็นการตัดสินใจ ทางศีลธรรม

ที่ผู้เล่นจะต้องเลือกระหว่างการโจมตี เพื่อจบเกมเร็ว หรือใช้ความอดทน เพื่อช่วยให้โปเกมอนกลับคืนสู่สภาพเดิม ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องผ่านระบบ ที่แฝงชั้นความหมายไว้อย่างแนบเนียน รูปแบบการต่อสู้แบบ Double Battle

ถูกนำมาใช้เป็นระบบการเล่นหลัก ตลอดทั้งเกม และระบบนี้ ยังเป็นนวัตกรรมสำคัญที่เกิดขึ้นมา ในปี 2003 เพราะจะเพิ่มมิติกลยุทธ์ และความตึงเครียดในการวางแผน

กระแสตอบรับจากแฟนเกม ที่เข้ามาเล่นเกมภาคนี้

เมื่อเกม Pokemon ภาค Colosseum วางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2003 ตัวเกมกลับได้รับเสียงตอบรับที่หลากหลาย และเต็มไปด้วยความขัดแย้ง โดยแฟนเกมรุ่นโต ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เล่นที่คิดถึงความท้าทายทางกลยุทธ์ ต่างยกให้เกมนี้ เป็นเกมภาคที่โตไปพร้อมผู้เล่น โดย 70% ของความคิดเห็นในช่วงแรก

กล่าวชื่นชมความจริงจังของเนื้อเรื่อง กับโทนการเล่นใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่อีกกลุ่มกลับรู้สึกว่าความมืดของเกม ทำลายเสน่ห์ความอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ของเกมในซีรีส์นี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงรอยแบ่งระหว่างความคาดหวัง ของแฟนเกมรุ่นคลาสสิก กับคนที่อยากเห็นโปเกมอน

กลายเป็นเกมที่มีการเล่าเรื่องราวมิติใหม่ ๆ ในมุมของสื่อเกม Colosseum ได้คะแนนเฉลี่ยราว 7.5 จาก 10 ถือว่าสูงกว่าที่คาด สำหรับเกมภาคที่ไม่ใช่เกมหลัก หลายรีวิวระบุว่าแม้เกม จะมีข้อจำกัดด้านพื้นที่เล่น และจำนวนโปเกมอน แต่กลับโดดเด่นด้วยการนำเสนอแนวคิดที่ลึกซึ้ง

สรุป รีวิวเกมโปเกมอน ภาคโคลอสเซียม จากปี 2003

แม้ Pokemon Colosseum จะไม่ใช่เกมภาคที่เล่นง่าย หรือเข้าถึงได้สำหรับทุกคน แต่คุณค่าที่แท้จริงของเกมนี้ อยู่ในความกล้าที่จะเปลี่ยนทิศทางการเล่าเรื่องราว ของแฟรนไชส์เกมโปเกมอน จากเกมเด็กสู่เกมที่มีเนื้อหาเข้มข้น และเป็นการที่ต้องใช้อารมณ์ร่วม ในการเล่นมากขึ้น

จุดเด่นของเกมโปเกมอน ภาคโคลอสเซียม คืออะไร?

ข้อดีของเกมโปเกมอน ภาคนี้ อยู่ที่ความกล้าที่จะเปลี่ยนสูตรสำเร็จของซีรีส์เกม ให้มีมิติ และอารมณ์มากขึ้น เกมนี้พิสูจน์ว่าโปเกมอน ยังสามารถเป็นได้มากกว่าโลกแห่งการผจญภัย ของเด็ก ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นเกมที่สะท้อนให้เห็นว่า Nintendo ใช้เป็นสะพานระหว่างระบบเดิม และระบบใหม่ได้อย่างแยบยล

จุดด้อยของโปเกมอน โคลอสเซียม คืออะไร?

ข้อเสียของเกมภาคนี้ อยู่ที่การจำกัดเสรีภาพของผู้เล่น ตัวเกมไม่มีการสำรวจโลกกว้าง เหมือนเกมภาคหลัก และจำนวนโปเกมอน มีให้ใช้น้อยกว่า ทำให้บางคนรู้สึกว่าเกมขาดเสน่ห์ของการค้นพบ ที่เป็นหัวใจหลักของเกม อีกทั้งบรรยากาศที่จริงจัง อาจทำให้รู้สึกห่างเหินจากความอบอุ่น ที่เคยมีในเกมภาคอื่น ๆ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง