เรื่องน่ารู้ของ ยิวยิตสู ประวัติ ต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น

ยิวยิตสู ประวัติ

ยิวยิตสู ประวัติ ศิลปะการต่อสู้ต้นตำรับจากญี่ปุ่น ที่เป็นหนึ่งในรูปแบบของการต่อสู้ระยะประชิด ที่สามารถใช้ในลักษณะป้องกัน หรือรุกเพื่อปราบคู่ต่อสู้ ที่ไม่มีอาวุธได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว มักจะเกี่ยวข้องกับความยืดหยุ่น นุ่มนวล และยอมจำนน ที่มุ่งหมายจะดูดซับการโจมตี อย่างมีเหตุผลเท่านั้น

  • ประวัติความเป็นมาของ ยิวยิตสู
  • กฎกติกา และวิธีการเล่น ยิวยิตสู
  • การแข่งขันชิงแชมป์โลก และประโยชน์

ข้อมูลทั่วไปของ ยิวยิตสู ประวัติ

ยิวยิตสู ประวัติ หรือมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Jujutsu” ที่มีความหมายว่า “ศิลปะแห่งความอ่อนโยน” เนื่องจากปรัชญาหลักของมัน คือ การจัดการกำลังของคู่ต่อสู้ แทนที่จะเผชิญหน้ากับมัน ซึ่งเป็นวิธีการเอาชนะที่ไม่ใช้อาวุธใด ๆ ที่จะมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ตามไปดูกัน

ประวัติความเป็นมาของ ยิวยิตสู

ประวัติศาสตร์ของยิวยิตสู ถูกบันทึกไว้ครั้งแรก ในปี 1532 โดยฮิซาโมริ เทเนนูจิ (Hisamori Tenenuchi) ผู้ที่ได้บัญญัติคำนี้ขึ้น หลังจากที่เขา ได้ก่อตั้งโรงเรียนสอนยิวยิตสูแห่งแรกในญี่ปุ่น จนกระทั่ง ในศตวรรษที่ 17 กีฬาชนิดนี้ กลับได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยมีโรงเรียนสอนยิวยิตสู มากถึง 2,000 แห่งในญี่ปุ่น

ต่อมา ในปี 1854 Matthew Perry หลังจากที่เขา ได้แล่นเรือรบ เข้าสู่ท่าเรือโตเกียว ด้วยภัยคุกคามจาก “การทูตเรือปืน” ทำให้เขาได้มีบทบาทสำคัญ โดยการเปิดประเทศญี่ปุ่น สู่โลกตะวันตกด้วยอนุสัญญาคานางาวะ ในปี 1854 ทำให้กีฬาชนิดนี้ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จนนำไปสู่ การต่อสู้รูปแบบใหม่ ๆ

ที่มา: Jiu Jitsu History: A Timeline Starting From 1460 (18 มีนาคม 2020) [1]

กฎกติกา และวิธีการเล่น ยิวยิตสู

กีฬายิวยิตสู (Jujutsu) ศิลปะการต่อสู้ระยะประชิด ที่ผสมผสานการต่อสู้หลายรูปแบบ เข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ การต่อย การจับ และการล็อก ภายใต้กฎกติกา ที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ที่จะถือว่าการล็อกคอ การรัดคอ และการล็อกแบบดิจิทัล เป็นเทคนิคที่อันตราย ที่ถูกห้ามในกีฬาประเภทนี้

รูปแบบ

กีฬายิวยิตสู แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ การแข่งขันแบบคู่ (Duo) โดยที่ฝ่ายรุก และฝ่ายรับ จะมาอยู่ในทีมเดียวกัน เพื่อแสดงเทคนิคการป้องกันตัว โดยรูปแบบที่สอง ก็คือ การแข่งขันผสมผสาน และรูปแบบที่สาม รูปแบบสุดท้าย จะเป็นการแข่งขันแบบญี่ปุ่น/เนวาซะ (การต่อสู้แบบจับล็อก) นั่นเอง

กีฬาที่เกี่ยวข้อง

  • ไอคิโด (Aikido)
  • วาโด ริว คาราเต้ (Wado Ryu Karate)
  • บาร์ทิตสึ (Bartitsu)
  • ยูโด (Judo)
  • บราซิลเลียนยิวยิตสู (Brazilian jiu-jitsu)
  • แซมโบ (Sambo)

ที่มา: Jujutsu (8 พฤศจิกายน 2025) [2]

การแข่งขันชิงแชมป์โลก และประโยชน์

ยิวยิตสู ประวัติ

ปัจจุบัน การแข่งขันยิวยิตสูชิงแชมป์โลก จะเป็นที่รู้จักในชื่อ “Ju-Jitsu World Championships” ซึ่งถือเป็นการแข่งขันยิวยิตสูระดับนานาชาติ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สหพันธ์ยิวยิตสูนานาชาติ (Ju-Jitsu International Federation) ที่จะน่าสนใจอย่างไร ตามไปดูกันได้แล้ว ด้านล่างนี้

การแข่งขันยิวยิตสู ชิงแชมป์โลก

การแข่งขันยิวยิตสูชิงแชมป์โลก (Ju-Jitsu World Championships) นับเป็นการแข่งขันยิวยิตสูระดับนานาชาติที่สำคัญ ที่มักจะถูกจัดขึ้นทุก 2 ปี โดยสหพันธ์ยิวยิตสูนานาชาติ (Ju-Jitsu International Federation) ที่ถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรก ที่เซนโต ประเทศอิตาลี ในปี 1994

เจ้าภาพจัดการแข่งขัน

  • ปี 2012 = เวียนนา ออสเตรีย
  • ปี 2014 = ปารีส ฝรั่งเศส
  • ปี 2015 = กรุงเทพฯ ไทย
  • ปี 2016 = วรอตซวาฟ โปแลนด์
  • ปี 2017 = โบโกตา โคลอมเบีย
  • ปี 2018 = มัลโม สวีเดน
  • ปี 2019-2022 = อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  • ปี 2024 = เฮราคลิออน กรีซ

ที่มา: Ju-Jitsu World Championships (23 ตุลาคม 2025) [3]

ประโยชน์ของการเล่น กีฬายิวยิตสู

กีฬายิวยิตสู ไม่ใช่แค่ศิลปะการต่อสู้ และกีฬา เพื่อการแข่งขันในระดับนานาชาติ เพียงเท่านั้น แต่มันยังเป็นวิถีชีวิต ที่จะติดตัวผู้ฝึกฝนไปตลอด ที่นอกจากจะเป็นทักษะการป้องกันตัว ที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้แล้ว กีฬาชนิดนี้ ยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย และจิตใจหลายประการ ดังนี้

  • มีทักษะในการควบคุมคู่ต่อสู้ และป้องกันตัวเอง
  • การตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ และการหลีกเลี่ยง
  • ช่วยลดความเครียด และส่งเสริมการผ่อนคลาย
  • ช่วยฝึกฝนทักษะ ในสภาพแวดล้อมที่สมจริง
  • เรียนรู้ที่จะควบคุม และรับมือกับความท้าทาย
  • ช่วยเสริมสร้างการทำงานของ หัวใจ และปอด
  • ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น และความคล่องตัว
  • ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และปรับสภาพร่างกาย
  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก และลดไขมันส่วนเกิน
  • ช่วยกระตุ้นการหลั่ง ของสารเอ็นดอร์ฟิน

คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ chriscleerebjj

บทสรุป ยิวยิตสูประวัติ

สรุป ยิวยิตสูประวัติ ศิลปะการต่อสู้โบราณ ที่มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น ที่มักจะถูกนำมาใช้ เพื่อพัฒนาศิลปะการต่อสู้รูปแบบอื่น ๆ จากการเรียนรู้วิธีการเอาชนะคู่ต่อสู้ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะ การกด การล็อก และการทุ่ม โดยอาศัยหลักการของการใช้พลังงาน แทนที่จะต่อต้านโดยตรง

กีฬายิวยิตสู ต่างจากกีฬายูโด อย่างไร ?

เนื่องจากยิวยิตสู เป็นศิลปะการต่อสู้โบราณของญี่ปุ่น ที่สามารถย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 16 ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันตัว จากการสังเกตกิ่งก้านของต้นหลิว ที่มีความยืดหยุ่น จึงทำให้ศิลปะการต่อสู้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกีฬายูโด มีรากฐานมาจากยิวยิตสู ที่มีต้นกำเนิดเก่าแก่กว่า นั่นเอง

บุคคลใด เป็นผู้คิดค้น กีฬายิวยิตสูขึ้น ?

คำว่า “Jiu-Jitsu” ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1532 โดยมี ฮิซาโมริ เทเนนูจิ (Hisamori Tenenuchi) เป็นผู้บัญญัติขึ้น หลังจากที่เขา ได้ก่อตั้งโรงเรียนสอนยิวยิตสูแห่งแรก ในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เพื่อใช้อธิบายเกี่ยวกับ การต่อสู้แบบจับล็อก ก่อนจะกลายมาเป็น ศิลปะป้องกันตัวรูปแบบหนึ่งของญี่ปุ่น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง