
ฟาโรห์ฮาวด์ ชอบแมวไหม เมื่อหมานักล่า มาเจอเพื่อนตัวเล็ก
- Pet Noi
- 159 views

ฟาโรห์ฮาวด์ ชอบแมวไหม คำถามที่ดูเหมือนง่าย แต่คำตอบกลับซ่อนเสน่ห์ของหมานักล่า จากอียิปต์ไว้อย่างน่าทึ่ง ฟาโรห์ฮาวด์ไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์สง่า แต่ยังมีนิสัยอ่อนโยน หลายบ้านที่เลี้ยงร่วมกับแมว บอกตรงกันว่า น้องหมาพันธุ์นี้มักเลือกใช้ “สายตาเข้าใจ” แทนเสียงเห่าเสมอ
“ฟาโรห์ฮาวด์” เป็นสุนัขโบราณจากอียิปต์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องสัญชาตญาณ และความฉลาดเฉียบแหลม ก่อนจะเข้าใจว่าหมาพันธุ์นี้ อยู่ร่วมกับแมวได้หรือไม่ เราอาจต้องเข้าใจธรรมชาติของน้องก่อนว่า “นิ่งเพราะใจเย็น” หรือ “เงียบเพราะอ่านสถานการณ์” กันแน่
Pharaoh Hound ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลก เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม โดยมีหลักฐานปรากฏในจิตรกรรมอียิปต์ ในรูปแบบของภาพวาดสุสาน เมื่อราว ๆ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งครอกแรกที่เกิดมา ได้เข้ามาอยู่ในสหราชอาณาจักร ในปี พ.ศ. 2506 (14 ตุลาคม 2025) [1]
นักประวัติศาสตร์คาดว่า สายพันธุ์นี้ถูกใช้งาน เพื่อล่าเหยื่อขนาดเล็กในทะเลทราย กับการคุ้มกันชนชั้นสูง ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 19 มีการบันทึกว่า ฟาโรห์ฮาวด์ถูกส่งออกจากเกาะมอลตา ไปยุโรปมากขึ้นกว่า 60% ของจำนวนทั้งหมดทั่วโลก ด้วยรูปร่างที่คล่องแคล่ว และท่วงท่าที่สง่างาม
น้องจึงกลายเป็น “หมานักล่า” ที่ผสมผสานทั้งความแข็งแรง บวกความละเอียดอ่อนในสายตาเดียวกัน ได้อย่างลงตัว พอเวลาได้ผ่านไป Pharaoh Hound ได้รับการขนานนามในชื่อ “สุนัขล่าเนื้อประจำชาติมอลตา” ในปี พ.ศ. 2522 เนื่องจากได้รับการยอมรับ และได้รับการยกย่อง (2025) [2]
รูปลักษณ์ของฟาโรห์ฮาวด์ สะท้อนถึงความสง่างามที่ผสมผสาน “ความเร็ว” กับ “ความแข็งแรง” ไว้อย่างลงตัว โดยเฉลี่ยแล้ว น้องมีความสูงราว ๆ 53 – 63 เซนติเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ 20 – 25 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าคล่องตัวมาก เมื่อเทียบกับ สุนัขต้อนแกะ มาเรมมาโน บวกสายพันธุ์อื่น ๆ
อีกทั้งก่อนหน้าที่พวกมัน จะได้รับการยอมรับในปี ค.ศ. 1960 ฟาโรห์ฮาวด์เริ่มถูกเรียกในยุโรป ว่าเป็น “หมานักล่าที่ดูสงบที่สุด” ด้วยรูปร่างเพรียว หูตั้ง และผิวหนังสีทองแดงที่สะท้อนแสงแดด ทำให้ภาพลักษณ์ของน้อง ไม่ใช่แค่สวยสง่า แต่ยังมีเอกลักษณ์เด่น ที่ใครเห็นก็จำได้ทันที

แม้จะมีต้นกำเนิดจากสายล่า แต่ฟาโรห์ฮาวด์กลับเป็นหมา ที่มีอารมณ์สงบกว่าที่คิด น้องไม่ใช่สายเห่า หรือพุ่งใส่โดยไร้เหตุผล เพราะมี “สัญชาตญาณคุมจังหวะ” อยู่ในตัวสูงกว่า 70% ของหมาล่าเหยื่อทั่ว ๆ ไป แถมยังเข้าสังคมเก่ง เป็นมิตร มีความฉลาดในตัว (14 กรกฎาคม 2025) [3]
นักเพาะพันธุ์ประจำสายพันธุ์ พบว่า ฟาโรห์ฮาวด์สามารถอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ได้ดี หากได้รับการฝึกด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใช่คำสั่ง และถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่สมดุล ภายในครอบครัวที่รักน้องจริง ๆ นิสัยเยือกเย็นนี้เอง ที่ทำให้น้องเป็นนักล่าที่มีหัวใจของเพื่อน มากกว่าคู่แข่ง
Pharaoh Hound เป็นหมาที่มีนิสัยสงบ สุขุม และอ่านอารมณ์คนเก่ง อย่างไม่น่าเชื่อ น้องไม่ใช่หมาที่เห่าเก่ง หรือหงุดหงิดง่าย แต่จะเลือกนิ่งก่อนลงมือเสมอ ซึ่งนิสัยนี้เองที่ทำให้แมวส่วนใหญ่ ไม่รู้สึกถูกคุกคาม เวลามีฟาโรห์ฮาวด์อยู่ใกล้ ๆ
จากการสำรวจพบว่า กว่า 78% ของบ้านที่เลี้ยงทั้งหมา และแมวพร้อมกัน รายงานว่า 2 สายพันธุ์นี้อยู่ร่วมกันได้ โดยไม่มีปัญหา โดยเฉพาะถ้าเลี้ยงตั้งแต่วัยเด็ก ฟาโรห์ฮาวด์มักมองแมวเป็นเพื่อนร่วมบ้าน ไม่ใช่เหยื่อ น้องจะใช้สายตา บวกท่าทีสื่อสารแทนการเห่า
แม้จะมีสัญชาตญาณนักล่า แต่พวกมันก็รู้จัก “หยุด” เมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คู่ต่อสู้ ด้วยความอ่อนโยนแบบนี้เอง ที่ทำให้แมวรู้สึกปลอดภัย และเจ้าของก็หลงรักเข้าเต็มหัวใจ นอกจากจะเข้ากับแมวได้แล้ว ฟาโรห์ฮาวด์ยังเข้ากับสุนัขพันธุ์อื่น ๆ รวมถึงคนแปลกหน้าได้อีก
การจะให้ฟาโรห์ฮาวด์ อยู่ร่วมกับแมวในบ้านได้ดี ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่คือ “การเข้าใจธรรมชาติของกันและกัน” ฟาโรห์ฮาวด์เป็นหมาที่ใช้สายตา บวกกลิ่นสื่อสารกับสิ่งรอบตัว จึงต้องการเวลาเรียนรู้เพื่อนใหม่อย่างแมว ซึ่งเป็นสัตว์ที่รักอิสระ กับระมัดระวังตัวเองสูง
หากเจ้าของค่อย ๆ แนะนำกันตั้งแต่ช่วงอายุ 3 – 6 เดือนแรก โอกาสที่ทั้งคู่จะอยู่ร่วมกันได้ดี มีมากกว่า 85% ตามรายงานจากชมรมผู้เพาะพันธุ์ในยุโรป ในปี 2020 พฤติกรรมสงบของฟาโรห์ฮาวด์ ช่วยลดความตึงเครียดในบ้าน ได้อย่างเห็นผล
เพราะน้องมักเลือก “รอ” มากกว่า “เร่ง” เมื่ออีกฝ่ายยังไม่เปิดใจ แล้วเมื่อความไว้วางใจเกิดขึ้น ทั้งสองจะใช้ “ภาษากาย” ที่ละเอียดอ่อนเข้าใจกัน โดยไม่ต้องออกเสียงเลยด้วยซ้ำ นี่จึงเป็นเหตุผลหลัก ๆ เลยที่ว่า ทำไมทั้งทาสหมาทาสแมว จึงนิยมเลี้ยงร่วมกันในบ้าน

ฟาโรห์ฮาวด์ไม่ได้ชอบหรือเกลียดแมว แต่เลือกที่จะอยู่แบบเข้าใจ พื้นที่ของกันและกันมากกว่า หากเติบโตมาด้วยการเลี้ยงร่วมกัน ตั้งแต่เด็ก ๆ น้องจะปรับตัวได้ไว และกลายเป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ จึงไม่แปลกที่หลาย ๆ บ้าน จะพูดเหมือนกันว่า หมาพันธุ์นี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ในแบบที่สัมผัสได้จริง
ฟาโรห์ฮาวด์เข้ากับแมวได้ ไม่ใช่เพราะนิ่งเฉยอย่างเดียว แต่เพราะเข้าใจจังหวะของอีกฝ่าย น้องรู้ว่าเมื่อไรควรเข้าใกล้ เมื่อไรควรถอยให้พื้นที่ จึงไม่กดดันหรือทำให้แมว รู้สึกไม่ปลอดภัย “ความใจเย็น” ผสมกับ “สัญชาตญาณละเอียดอ่อน” นี่เอง ที่ทำให้ทั้งคู่เข้ากันอย่างลงตัว ในหลาย ๆ ครอบครัว
ฟาโรห์ฮาวด์ไม่ได้แค่รักความสงบ แต่ยังรอคนที่ “เข้าใจความนิ่งของมันจริง ๆ” น้องไม่ต้องการคำสั่งที่ดัง หรือความวุ่นวาย เพียงแค่สายตาอ่อนโยน ก็เพียงพอให้รู้ใจ การอยู่ร่วมกันจึงไม่ใช่เรื่องของการควบคุม แต่คือการเรียนรู้ที่จะไว้วางใจ และเคารพในความต่างของกันและกัน อย่างแท้จริง

