
ดัตช์เชพเพิร์ด ทำไมหายาก สุนัขภักดีที่ถูกลืมในยุคสงคราม
- Pet Noi
- 84 views

ดัตช์เชพเพิร์ด ทำไมหายาก คำถามที่ทาสหมาหลาย ๆ คนอยากรู้ เพราะสายพันธุ์นี้ไม่ใช่แค่หมาภักดี จากเนเธอร์แลนด์ แต่ยังมีประวัติที่ยาวนาน เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งการต่อสู้ จากหมาทำงานในฟาร์ม สู่ผู้ช่วยในสนามรบ ก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ ที่หายากที่สุดในปัจจุบัน
“ดัตช์เชพเพิร์ด” เป็นสายพันธุ์เก่าแก่จากเนเธอร์แลนด์ ที่เริ่มถูกบันทึกอย่างเป็นทางการ ในช่วงปี ค.ศ. 1898 มีอีกชื่อเรียกว่า “ชาวดัตช์แฮร์เดอร์” โดยจุดเริ่มต้นของน้องคือ “หมาทำงานในฟาร์ม” ที่มีจำนวนราว ๆ 70% ของเกษตรกร แต่ก่อนนิยมเลี้ยงไว้ช่วยต้อนฝูงแกะ
แต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงทศวรรษ 1940 – 1950 จำนวนลดลงอย่างหนัก เหลือเพียงไม่ถึง 15% ของประชากรหมาทำงานในยุโรป และปัจจุบันทั่วโลก มีการจดทะเบียนดัตช์เชพเพิร์ดใหม่ต่อปี เฉลี่ยไม่ถึง 1,500 ตัวเท่านั้น (18 กันยายน 2025) [1]
ดัตช์เชพเพิร์ดเริ่มต้นชีวิตในฐานะ “หมาต้อนฝูงแกะ” ตามทุ่งหญ้าในเนเธอร์แลนด์ ก่อนจะถูกคัดเลือกให้เป็น “หมารับใช้” ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ด้วยความแกร่ง ความฉลาดเฉลี่ยสูงติดอันดับต้น ๆ ของหมาทำงาน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มขึ้น น้องถูกนำมาใช้เป็น “สุนัขผู้ส่งสาร”
เช่นเดียวกับสุนัขที่ทาสหมาหลายคน ตั้งประเด็นที่ว่า ทำไมเรียกว่า บลัดฮาวด์ จนทั้ง 2 ถูกยกให้เป็น หนึ่งในสุนัขภักดีของกองทัพ ต่อมาหลังสงครามสิ้นสุด หลายตัวสูญหายหรือถูกปล่อย ทำให้จำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นหมาที่หายาก ในเวลาต่อมา
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงปี ค.ศ. 1945 เป็นต้นมา Dutch Shepherd ต้องเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ประชากรที่เคยมีอยู่ราว ๆ 10,000 ตัว ทั่วเนเธอร์แลนด์ ลดลงกว่า 80% ภายในเวลาเพียงไม่ถึง 10 ปี เหตุผลไม่ใช่แค่จากการสูญเสียในสนามรบ แต่เพราะเศรษฐกิจตกต่ำ
หลาย ๆ ฟาร์มหยุดเพาะพันธุ์ ส่งผลให้เหลือเพียงไม่ถึง 2,000 ตัวในช่วงปี 1950 ก่อนที่กลุ่มอนุรักษ์จะเริ่มฟื้นฟูสายพันธุ์ ในช่วงทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา โดยในช่วงเวลานั้น พวกมันนิยมถูกใช้งานในหน้าที่ใหม่ ๆ อาทิเช่น สุนัขตำรวจ และสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด เป็นต้น (2025) [2]

จากหมาทำงานที่เคยถูกลืม ดัตช์เชพเพิร์ดกลับกลายเป็น “สัญลักษณ์ของความภักดี และความอดทน” ที่ไม่เคยเลือนหาย ปัจจุบันแม้จะมีจำนวนน้อย แต่ยังคงมีการเพาะพันธุ์อย่างระมัดระวัง ในยุโรปบวกอเมริกา โดยในแต่ละปี มีลูกสุนัขเกิดใหม่เฉลี่ยเพียง 1,200 – 1,500 ตัวทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของน้องคือ เป็นหมาระมัดระวังตัวเอง มีอาการตื่นตัวแต่ว่าไว้ใจได้ อีกทั้งยังเฉลียวฉลาด สุภาพ ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ จนกลายเป็นหมาที่คนรักหมาทั่วโลก ยกให้เป็น “เพื่อนแท้” ที่แทบไม่มีสายพันธุ์ไหนเทียบได้ ในแง่หัวใจและความเข้าใจมนุษย์ (26 กรกฎาคม 2020) [3]
แม้จะเคยเป็นหมาที่เกือบหายไป จากประวัติศาสตร์ แต่ปัจจุบัน Dutch Shepherd กลับมามีบทบาทใหม่ในสังคม อย่างน่าภาคภูมิ น้องไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในฟาร์ม หรือกองทัพอีกต่อไป แต่กลายเป็นหมาทำงาน ที่ได้รับการฝึกให้ช่วยเหลือผู้พิการ และค้นหาผู้สูญหายในหลาย ๆ ประเทศ
อาทิเช่น เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และแคนาดา ด้วยความฉลาดเป็นอันดับต้น ๆ ของหมาทำงานทั่วโลก มีงานวิจัยระบุว่า น้องสามารถจดจำคำสั่งได้มากกว่า 200 คำ และตอบสนองต่อเสียงเรียกได้รวดเร็ว ภายในเวลาเฉลี่ยเพียง 1.5 วินาที น้องจึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญ ในทีมกู้ภัยหลายพื้นที่ของยุโรป
นอกจากนี้ ยังเริ่มถูกนำมาใช้ในหน่วยงานตำรวจ บวกทีมสุนัขบำบัดในปี 2010 เป็นต้นมา ปัจจุบันสัดส่วนการเลี้ยงเพื่อการทำงาน และเพื่อเป็นเพื่อนอยู่ที่ราว ๆ 60 ต่อ 40 ซึ่งสะท้อนว่า น้องยังคงรักษาความขยัน แต่ก็อ่อนโยนพอจะอยู่ใกล้คนได้ จึงทำให้ทาสหมาหลาย ๆ คนยอมรับในตัวน้อง
แม้เวลาจะผ่านไปหลาย 10 ปี แต่ความผูกพันระหว่าง “คน” กับ “ดัตช์เชพเพิร์ด” ไม่เคยเลือนหายไปไหน น้องยังคงเป็นหมาที่ซื่อสัตย์ เข้าใจอารมณ์เจ้าของ พร้อมอยู่ข้าง ๆ ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ หลายครอบครัวในยุโรป ยืนยันว่า น้องมีสัญชาตญาณปกป้องสูงกว่า 70%
ของสายพันธุ์ทำงานทั้งหมด แต่กลับอ่อนโยนกับเด็ก รวมถึงสัตว์เลี้ยงในบ้านอย่างไม่น่าเชื่อ น้องไม่ชอบแสดงความรัก ด้วยท่าทางวุ่นวาย แต่เลือกที่จะอยู่ใกล้ ๆ อย่างเงียบ ๆ เหมือนเข้าใจโดยไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ ความนิ่งและภักดีของน้อง กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกจดจำได้ จนถึงวันนี้
หลายคนที่เคยเลี้ยงดัตช์เชพเพิร์ด บอกตรงกันว่า “น้องไม่ได้เป็นแค่หมา แต่เป็นครอบครัว” และบางครอบครัวถึงขั้น สานต่อสายพันธุ์จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อรักษาความทรงจำนี้ไว้ ความหายากจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของจำนวน แต่เป็นเรื่องของคุณค่า ที่อยู่ในใจคนรักหมาอย่างแท้จริง

ดัตช์เชพเพิร์ดหายาก เพราะประวัติที่ผูกกับสงคราม และการเพาะพันธุ์ที่ลดลงต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันยังคงมีคนอนุรักษ์ และเพาะเลี้ยงในบางประเทศอย่างใส่ใจ ความหายากของน้องจึงไม่ใช่การหายไป แต่คือคุณค่าที่คนรักหมา ยังเก็บรักษาไว้ในใจ
ดัตช์เชพเพิร์ดยังไม่แพร่หลาย เพราะการเพาะพันธุ์ต้องอาศัยมาตรฐานสูง บวกการควบคุมสายเลือด อย่างเข้มงวด จำนวนผู้เพาะที่มีความรู้จริงยังมีน้อย ทำให้การขยายพันธุ์ เติบโตช้ากว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่สิ่งนี้กลับยิ่งเพิ่มคุณค่าให้น้อง ในฐานะ “หมาผู้ภักดี” ที่ไม่เหมือนใคร
ดัตช์เชพเพิร์ดอาจหายาก ในสายตาคนทั่ว ๆ ไป แต่สำหรับคนที่เข้าใจ น้องยังมีคุณค่ามากเกินกว่าตัวเลข จะบอกได้ เพราะสิ่งที่โดดเด่นไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ แต่คือหัวใจที่ภักดี และนิ่งสงบไม่เปลี่ยนแปลง บางทีน้องอาจไม่ได้หายไปไหน แค่นั่งรอคนที่มองเห็น ความงามจากข้างในเท่านั้นเอง

