
กัมพูชา เกาหลีใต้ ความสัมพันธ์ ที่ยากจะประกอบขึ้นมาใหม่
- Pink Panther
- 103 views

กัมพูชา เกาหลีใต้ ความสัมพันธ์ ที่ยากจะประกอบขึ้นใหม่ จริงไหม ? หากใครที่ได้ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ตอนนี้ อาจสงสัยว่า ในอนาคตประเทศทั้งสองประเทศ จะเป็นไปในทิศทางใด และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในรูปแบบใดบ้าง สามารถตามไปดูกันได้แล้ว ในบทความนี้
สำหรับ ความสัมพันธ์ของ กัมพูชา-เกาหลีใต้ ล่าสุด ทางอีแจมยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้มีคำสั่งออกมาแล้ว จากปัญหาอาชญากรรม และการค้ามนุษย์ชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา ที่เกิดขึ้นหลังพบนักศึกษาวัย 22 ปี กลายเป็นศพ ที่จะมีความเป็นมาอย่างไร และส่งผลกระทบอะไรบ้าง ไปดู
ท่ามกลางความตึงเครียดทางสังคม ที่กำลังปะทุขึ้นระหว่าง กัมพูชา-เกาหลีใต้ ที่เปรียบเหมือนความสัมพันธ์ที่กำลังแตกหัก จึงทำให้ทางรัฐบาลของเกาหลีใต้ ตัดสินใจหยุดโครงการบริหารจัดการน้ำ ให้กัมพูชาชั่วคราว หลังจากที่ได้มีการรายงานว่า ชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก ถูกลักพาตัวในกัมพูชา
จึงทำให้ในวันที่ 19 ตุลาคม 2568 สถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (Science and Technology Policy Institute: STEPI) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญ ที่ประจำอยู่ในสังกัดรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ออกมาระบุว่า โครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือของ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)
ซึ่งจะถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ในขณะที่ STEPI จะยังคงดำเนินโครงการลักษณะเดียวกันนี้ ในประเทศอื่น ๆ ต่อไป ยกเว้นแค่กัมพูชา เพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลของเกาหลีใต้ ได้ตอบโต้ในเชิงรุกมากขึ้น ทั้งในระดับการทูต และการสืบสวน จนกว่าปัญหาอาชญากรรมร้ายแรง จะหมดไป
ที่มา: เกาหลีใต้ระงับโครงการน้ำในกัมพูชา เซ่นพิษ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ (19 ตุลาคม 2025) [1]
สำหรับ ต้นสายปลายเหตุของความขัดแย้งครั้งนี้ มาจากการที่ นักศึกษาวัย 22 ปี ชาวเกาหลีใต้ ได้ถูกหลอกให้ไปทำงานในกัมพูชา และพบว่าถูกทรมาน บังคับเสพยา ก่อนจะเสียชีวิต ในเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา รวมไปถึง การร้องเรียนของชาวเกาหลีใต้ ที่หายตัวไปมากขึ้นเรื่อย ๆ
ส่งผลให้ กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นคำสั่งล่าสุดของอีแจมยอง ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ต้องใช้มาตรการทางการทูต เพื่อตอบโต้เกี่ยวกับ ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ การหลอกลวงแรงงาน กักขังผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ในกัมพูชา ที่ส่วนใหญ่ชาวเกาหลีใต้ตกเป็นเหยื่อ
ที่มา: ปัญหาสแกมเมอร์ กระทบความสัมพันธ์เกาหลีใต้-กัมพูชาอย่างไร ? (13 ตุลาคม 2025) [2]

หลังจาก การรายงานข่าวของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งได้สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้คนทั่วเอเชีย โดยเฉพาะประชาชนชาวเกาหลีใต้ ที่วางแผนว่าจะไปเที่ยวในกัมพูชา จึงทำให้กำหนดการนี้ ต้องถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด จากการยกระดับคำเตือน ที่ฝั่งกัมพูชาจะมีการออกมาตอบโต้อย่างไร ไปดู
เนื่องจาก รัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ประกาศยกระดับคำเตือน การเดินทางไปยังกัมพูชาเป็น “ระดับพิเศษ” จึงทำให้นายเสียม สกเขง ประธานสมาคมมัคคุเทศก์ในกัมพูชา ได้ออกมาเปิดเผยว่า กัมพูชายังคงต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ “สแกมเมอร์”
ซึ่งไม่ใช่นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวจริง ๆ และยืนยันว่า “กัมพูชา” ยังคงเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง อีกทั้ง เขายังเสนอแนะให้รัฐบาลเกาหลีใต้ ต้องให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับการป้องกัน และการระมัดระวังจากอาชญากรรมออนไลน์ แทนที่จะใช้ “มาตรการพิเศษ” นี้
ที่มา: กัมพูชา ขอ เกาหลีใต้ อย่าเหมารวม ยืนยันประเทศยังปลอดภัย (14 ตุลาคม 2025) [3]
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ของความสัมพันธ์ระหว่าง กัมพูชา-เกาหลีใต้ จากการที่รัฐบาลของเกาหลีใต้ ไม่สามารถมองเหตุการณ์นี้ เป็นเพียงคดีอาชญากรรมต่างประเทศทั่วไปได้ โดยเฉพาะเมื่อสื่อเกาหลีใต้ ได้พาดหัวข่าวว่า “กัมพูชาได้ฆ่าความเชื่อใจ” ของพวกเขา
พร้อมกับเตือนว่า หากรัฐบาลของกัมพูชา ยังเพิกเฉยต่ออุตสาหกรรมสแกมเมอร์ ที่ฝังลึกในประเทศของตน ความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ และภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ที่สร้างมานานนับปีอาจพังทลายลง รวมไปถึง ความรู้สึกของชาวเกาหลีใต้ และทั่วโลก ที่มองว่ากัมพูชาเป็น “ดินแดนที่เสี่ยงชีวิต”
จากสถิติคดีลักพาตัวชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา ที่พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ จาก 17 คดีในปี 2566 ซึ่งได้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 220 คดีในปี 2567 ที่ผ่านมา ก่อนจะมีตัวเลขถึง 330 คดี ในครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ได้ตอกย้ำถึงระดับความรุนแรงของวิกฤติ และการจัดการปัญหาที่ล้มเหลว ของรัฐบาลกัมพูชา
คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ dailynews
สรุป กัมพูชาเกาหลีใต้ ความสัมพันธ์ ที่ยังคงมีรอยร้าวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่ปัญหาที่เพิ่งประสบพบเจอ แต่มันกลับเป็นปัญหา ที่เกิดขึ้นมานานหลายปี และยังคงปะทุขึ้นเรื่อย ๆ จนฟางเส้นสุดท้ายได้ขาดลง ทำให้เกาหลีใต้ ต้องใช้มาตรการเด็ดขาด ที่แม้แต่สายสัมพันธ์ก็ไม่เอา
ภาพลักษณ์ของกัมพูชาได้เปลี่ยนไป เมื่ออาคารคาสิโนที่มีอยู่เดิม ถูกแปลงสภาพให้กลายเป็น ศูนย์สแกมเมอร์ ทั่วกัมพูชา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ ที่อาชญากรรมข้ามชาติ ได้เข้ามาปักหลักอย่างเต็มตัว อีกทั้ง ยังได้รับแรงสนับสนุนในท้องถิ่น ทำให้การดำเนินงานขนาดใหญ่นี้ เติบโตอย่างรวดเร็ว
จากการหารือทางโทรศัพท์ ระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว. มหาดไทย กับนายอีแจมยอง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีใต้ จึงได้ข้อสรุปว่า ประเทศไทย ยินดีให้ความร่วมมือกับ เกาหลีใต้ เพื่อจัดการปัญหาเกี่ยวกับ ขบวนการสแกมเมอร์ ในประเทศกัมพูชาโดยเร็ว

